เอเอฟพี - สาวงามชาวพม่าที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวในวันนี้ (2) ว่า เธอจะคืนมงกุฎก็ต่อเมื่อกองประกวดเกาหลีใต้แสดงความขอโทษ
เม เมียต โน (May Myat Noe) สาวพม่าวัย 16 ปี ได้เข้ารับการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวเป็นดาราในวงการ K-pop ของเกาหลีใต้ หลังชนะตำแหน่ง Miss Asia Pacific World เมื่อเดือน พ.ค. แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้จัดการประกวดได้ปลดเม เมียต โน ออกจากตำแหน่งด้วยข้อกล่าวหาว่าสาวพม่ารายนี้ไม่ซื่อสัตย์ และหลบหนีไปพร้อมกับมงกุฎ และรางวัลผ่าตัดเสริมหน้าอกมูลค่า 10,000 ดอลลาร์ ที่กองประกวดระบุว่าเป็นทุนเพื่อส่งเสริมอาชีพนักร้องของเธอ
ในวันอังคาร (2) สาวงามชาวพม่าที่ตกเป็นข่าวได้แถลงตอบโต้ และเรียกร้องการขอโทษจากกองประกวด
เม เมียต โน กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวที่นครย่างกุ้งว่า เธอรู้สึกว่าควรเรียกร้องการขอโทษเพื่อแก้ไขความเสียหายที่ฝ่ายกองประกวดทำต่อบูรณภาพของพม่า
“ฉันจะคืนมงกุฎให้ต่อเมื่อพวกเขาขอโทษพม่าเพื่อศักดิ์ศรีของประเทศของเรา” สาวพม่า กล่าว พร้อมกับปฏิเสธการยอมรับการผ่าตัดเสริมหน้าอกฟรี
“ฉันถูกบังคับให้เข้ารับการผ่าตัดเสริมความงามตั้งแต่หัวจดเท้าซึ่งฉันปฏิเสธ ฉันไม่ได้เสริมหน้าอก แต่ฉันขอไม่ลงในรายละเอียดเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของฉันเอง”
เมื่อสัปดาห์ก่อน ฝ่ายกองประกวดกล่าวหาสาวงามพม่าผู้นี้ว่า จัดการยาก และพฤติกรรมของเธอทำให้พวกเขารู้สึกโกรธ
“เธอโกหกกับเราไว้หลายอย่าง บรรดานางงามรุ่นก่อนๆ ยังบ่น เพราะเธอ ชื่อเสียงของเราต้องเสียหาย” เดวิด คิม โฆษกกองประกวด กล่าว
ยัง ชอย ผู้ก่อตั้งการประกวด Miss Asia Pacific World กล่าวต่อสำนักข่าวเอเอฟพีว่า กองประกวดมีภาพถ่ายหลักฐานการผ่าตัดเสริมหน้าอก และว่าพวกเขาจะพิจารณาการดำเนินการทางกฎหมายต่อ เม เมียต โน
“เธอโกหก เธอยังโกหกในงานแถลงข่าววันนี้ เธอต้องคืนมงกุฎ” ยัง ชอย กล่าว และปฏิเสธที่จะระบุถึงมูลค่าของมงกุฎ แต่อธิบายว่า มงกุฎใช้เวลาทำขึ้นนานหลายสัปดาห์โดยผู้เชี่ยวชาญ 10 คน
“ไม่ใช่เรื่องของเราแต่เป็นเธอที่จะต้องขอโทษ เธอทำให้ภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของเราเสียหาย” ผู้ก่อตั้งการประกวดกล่าว
ชอย กล่าวว่า กองประกวดหวังที่จะจัดการกับปัญหาอ่อนไหวนี้อย่างเงียบๆ ตอบแทนต่อความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้ และพม่า แต่พร้อมที่จะพิจารณาการฟ้องร้องหากอีกฝ่ายปฏิเสธที่จะร่วมมือ
สาวพม่ามองหาความสำเร็จในเวทีการประกวดความงามระดับนานาชาติเมื่อประเทศเปิดสู่โลกภายนอก หลังอยู่ภายใต้การปกครองของทหารนานหลายทศวรรษ แต่แม้พม่าจะดำเนินการปฏิรูปการเมือง และสังคมหลากหลายประการ พม่ายังคงเป็นประเทศอนุรักษนิยมอย่างมาก.