เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ในวันนี้ (25) ยกย่องความคืบหน้าในการเจรจาการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป โดยระบุว่า ข้อตกลงอาจได้ข้อสรุปเร็วที่สุดในเดือน ต.ค.นี้
นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียดนามกล่าวหลังการหารือกับ นายโฆเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่อยู่ในระหว่างการเยือนกรุงฮานอยเพื่อหารือประเด็นต่างๆ ที่รวมทั้งการค้า และความมั่นคง
ผู้นำเวียดนามกล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ทั้งคู่ได้เจรจาหารืออย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา และเรียกร้องความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างเวียดนาม และสหภาพยุโรป รวมทั้งการบรรลุเป้าหมายของข้อสรุปการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ในเดือน ต.ค.2557 ซึ่งการหารือเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2555
ในปี 2556 การค้าระหว่างสหภาพยุโรป และเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 27,600 ล้านยูโร หรือ 36,000 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน สหภาพยุโรปเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นหุ้นส่วนการค้าใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากจีน
เวียดนาม ส่งออกโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รองเท้าและสิ่งทอ สินค้าเกษตร ที่รวมทั้งกาแฟ ข้าว และอาหารทะเล ไปยังสหภาพยุโรป ขณะที่สหภาพยุโรปเป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
บาร์โรโซ กล่าวว่า FTA จะกระตุ้นการจ้างงาน และการเติบโตทั้งในเวียดนาม และสหภาพยุโรปและจะช่วยเวียดนามปฏิรูปเศรษฐกิจที่ถูกรัฐครอบงำ นอกจากนั้น บาร์โรโซ ยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในทะเลจีนใต้แก่ผู้นำเวียดนาม
ฮานอย มีข้อขัดแย้งทางทะเลกับปักกิ่งเกี่ยวกับน่านน้ำพิพาท และหมู่เกาะในทะเลจีนใต้
ในเดือน พ.ค. ปักกิ่งได้เคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในน่านน้ำที่เวียดนามอ้างสิทธิอธิปไตย ส่งผลให้เกิดเหตุจลาจลต่อต้านจีนในเวียดนาม และการเผชิญหน้าทางทะเลรอบแท่นขุดเจาะ ต่อมา ปักกิ่งได้ย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันในเดือน ก.ค. โดยอ้างว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว
“สหภาพยุโรปมีเดิมพันสูงในภูมิภาคนี้ ทั้งการค้า และผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ รวมทั้งมิติด้านพลังงานและความมั่นคง สหภาพยุโรปไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด แต่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อทุกฝ่ายในการหาทางแก้ไขอย่างสันติตามกฎหมายระหว่างประเทศ” บาร์โรโซ กล่าว.