ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะยอดนิยมอันดับ 1 ของชาวบ้านร้านตลาด เพราะฉะนั้นก็จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจ้าสองล้อเครื่องนี้เป็นยานพาหนะที่สูญหายมากที่สุดด้วย การโจรกรรม หรือลักขโมยรถมอเตอร์ไซค์เป็นปัญหาใหญ่ในเมืองหลวงเวียดนาม ด้วยทักษะ ด้วยความเชี่ยวชาญ หรือจะด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคของคนร้าย แต่ตำรวจบอกว่า ความเผอเรอของเจ้าของเป็นสาเหตุสำคัญที่สุด
คลิปชิ้นหนึ่งที่มีผู้นำขึ้นโพสต์ในประชาคมออนไลน์วันจันทร์ 18 ส.ค.นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน แสดงให้เห็นนักโจรกรรมมอเตอร์ไซค์ผู้ช่ำชองคนหนึ่ง ที่ใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที ลงมือปฏิบัติการขโมยฮอนด้าเบลดคันหนึ่ง ซึ่งเจ้าของจอด และลืมล็อกกุญแจคอ ก่อนเข้าไปในร้านหนังสือริมถนน โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางคนเฝ้ามองความผิดพลาดนี้อยู่ห่างๆ
ขโมยผู้ช่ำชองรายนี้ปฏิบัติการต่อหน้ากล้องวงจรปิดที่เจ้าตัวอาจจะมองไม่เห็น หรือเชื่อว่าไม่ใช่ ขณะทำทีเป็นพูดคุยโทรศัพท์ดูลาดเลา สังเกตความเคลื่อนไหวรอบข้าง ก่อนจะปรี่เข้าหาเป้าหมาย ลงมือปฏิบัติการ 1... 2... 3... และ นำรถจักรยานยนต์รุ่นยอดนิยมหลบหนี พุ่งไปตามถนนเลดึ๊กเถาะ (Le Duc Tho) ในเขต อ.ทูเลียม (Thu Liem) หารู้ไม่ว่ากล้องจรปิดบันทึกหน้าตาของเขาเอาไว้อย่างชัดเจน ดูจะไม่ยุ่งยากในการติดตามหาตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย
ถึงแม้ว่าบริษัทผู้ผลิตจะได้คิดค้นติดกุญแจรุ่นใหม่ ดูทันสมัย และปลอมแปลงได้ยากขึ้น กระทั่งติดสัญญาณกันขโมยก็ตามที สถิติรถจักรยานยนต์หายในเมืองหลวงของเวียดนามก็มิได้ลดน้อยถอยลง การออกตรวจจับตามทะเบียนในนครใหญ่ที่มีมอเตอร์ไซค์ 3-4 ล้านคัน นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากตามหาตัวคนร้ายไม่พบ โอกาสที่จะได้รถคืนนั้นก็แทบจะเป็นศูนย์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงฮานอยได้แนะนำให้สถานประกอบการต่างๆ ที่มีลานจอดรถ ให้ว่าจ้างพนักงานดูแลความปลอดภัยป้องการโจรกรรม หรือติดกล้องวงวจรปิดคุณภาพดีไว้ตามมุมต่างๆ เพื่อป้องปรามคนร้าย และช่วยให้ตามจับได้ง่ายขึ้นเมื่อเกิดเหตุ นอกจากนั้น ยังแนะนำให้ร้านค้าขนาดย่อม ตลอดจนครัวเรือนทั่วไปติดกล้องวงจรปิดเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์ดังกล่าวมีราคาถูกลงมาก และบันทึกเหตุการณ์ได้อย่างต่อเนื่องยาวนานตามความจุของหน่วยความจำที่ติดตั้งไว้
พร้อมๆ กับการป้องกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังร้องขอให้ประชาชนทั่วไป บริษัทห้างร้านต่างๆ ช่วยจัดเวรยามดูแลยานพาหนะเพื่อช่วยจับขโมยด้วย ซึ่งข้อเรียกร้องนี้ในระยะที่ผ่านมา หลายกรณีก็ได้ผลเกินคาด.
.
.
