ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการแขวงสะหวันนะเขต ได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยตามหมู่บ้านริมลำห้วยสายหลักให้ต้องอพยพข้าวของ และสัตว์เลี้่ยงขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ที่อาจจะติตามมา หลังจากน้ำในลำเซจำพอน เอ่อล้นขึ้นท่วมพื้นที่ 9 หมู่บ้านในขณะนี้ เนื่องมาจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในช่วงต้นสัปดาห์ อันเป็นอิทธิพลจากไต้ฝุ่นรามสูร
กรมอุตุนิยมและอุทกศาสตร์ลาว ได้ออกเตือนก่อนหน้านี้ให้แขวงภาคกลาง ตั้งแต่สะหวันนะเขต-คำม่วน ขึ้นไปจนถึงตอนเหนือสุดของประเทศ เตรียมรับมือฝนตกหนัก และระวังอุทกภัย ขณะรามสูร เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้ และซัดเข้าเกาะไหหลำของจีน กับภาคเหนือเวียดนามสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นไปตามคาด หลายเมืองในสะหวันนะเขต กำลังได้รับผลกระทบจากพายุรามสูร ในสัปดาห์นี้ หนังสือพิมพ์ “ปะเทดลาว” สื่อออนไลน์ของทางการรายงาน อ้างการแถลงของเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาในพื้นที่ซึ่งได้ระบุชื่อ 9 หมู่บ้านในเขตเมือง (อำเภอ) จำพอน ที่น้ำในลำเซเริ่มเอ่อท่วมท้น
น้ำยังไหลเข้าท่วมที่นาของราษฎรที่เพิ่งจะปักดำข้าวนาปีเสียหายอีก 4,300 เฮกตาร์ (กว่า 26,000 ไร่) นางแก้วอุดอน จุนละมนตี รองหัวหน้าสำนักงานทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยเรื่องนี้ในการร่วมแถลงข่าวต่อสำนักงานกสิกรรมและป่าไม้ของเมืองวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา
ยังมีหมู่บ้านต่างๆ อีกราว 69 แห่ง ตั้งเรียงรายตามสองฝั่งลำเซสายยาวนี้ซึ่งมีความเสี่ยง ให้เตรียมเคลื่อนย้ายย้ายปศุสัตว์ขึ้นสู่พื้นที่สูง เฝ้าระวังระบบสูบน้ำชลประทานในท้องถิ่น รวมทั้งที่อยู่อาศัยประเภทเรือนแพท ที่อาจจะถูกกระแสน้ำพัดพาไปหรือถูกซัดจมได้ เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ขึ้นอยู่กับสภาพฝน หากเกิดฝนทิ้งช่วงในระยะนี้ก็จะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันจากกระแสน้ำในลำเซบังเหียงลงได้ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในเซจำพอนลดลง นางจันสะหมอน เทบพะวง หังหน้าฝ่ายแผนการ สำนักงานกสิกรรมและป่าไม้ที่ร่วมแถลงข่าวกล่าว
นับเป็นครั้งแรกที่มีรายงานการเกิดอุทกภัยในแขวงภาคกลางของลาว อันเป็นผลพวงจากไต้ฝุ่นชื่อไทย หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์นี้ สำนักข่าวของทางการได้นำภาพทางหลวงเลข 13 เหนือ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสายหลักในภาคเหนือของประเทศ ช่วงแขวงหลวงพระบาง กับแขวงอุดมไซ ถูกหิน ดิน และโคลนเลื่อนลงทับถมจนใช้การไม่ได้
ตามรายงานล่าสุด รามสูร ได้คร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ไปกว่า 100 คน ชาวจีนเสียชีวิตอีกกว่า 70 คนทั้งที่เกาะไหหลำ และในมณฑลกว่างซี ยังมีชาวเวียดนามอีก 17 คน ที่ตกเป็นเหยื่อ อีกจำนวนหนึ่งยังคงสูญหาย สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนามรายงานผลการสำรวจวันพฤหัสบดีนี้.
