เอเอฟพี - อดีตสตรีหมายเลข 1 แห่งระบอบการปกครองเขมรแดงของกัมพูชา เข้ารักษาตัวอยู่ในไทย โดยต้องอาศัยการให้อาหารผ่านทางสายยาง และออกซิเจนเพื่อยื้อชีวิต ตามการเปิดเผยของบุตรชายในวันนี้ (23)
เอียง ธิริธ วัย 82 ปี ที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นโรคอัลไซเมอร์ ได้รับการปล่อยตัวในเดือน ก.ย.2555 จากศูนย์กักกันที่ศาลอาชญากรรมสงครามสหประชาชาติ ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่ปี 2550 หลังถูกวินิจฉัยว่าไม่พร้อมที่จะเข้ารับการพิจารณาคดี
นางเอียง ธิริธ เข้ารักษาตัวในไทยตั้งแต่เดือน มี.ค. ด้วยปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ กระเพาะปัสสาวะ และปอด ตามการเปิดเผยของนายเอียง วุธ รองผู้ว่าราชการ จ.ไพลิน บุตรชายของนางธิริธ
เอียง วุธ ระบุว่า แม่ของตนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูที่ไทยมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว และสุขภาพไม่ดีขึ้นต้องอาศัยท่อออกซิเจน และให้อาหารผ่านทางสายยาง
ส่วนสามีของนางธิริธ คือ นายเอียง สารี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เสียชีวิตขณะอายุ 87 ปี ตั้งแต่เดือน มี.ค.2556 ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ไม่ทันได้ถูกตัดสินความผิดจากบทบาทของตนเองในระบอบการปกครองอันโหดร้ายระหว่างปี 2518-2522
คดีของนางเอียง ธิริธ ถูกระงับลงหลังศาลวินิจฉัยว่า นางธิริธ อยู่ในภาวะสมองเสื่อมไม่พร้อมที่จะให้การในการพิจารณาคดีได้
แกนนำอาวุโสที่ยังมีชีวิตอยู่ของเขมรแดงอีก 2 คน ถูกนำตัวขึ้นศาล เพื่อพิจารณาความผิดที่ถูกแบ่งออกเป็นคดีย่อยๆ โดยเบื้องต้นมุ่งเน้นไปที่ข้อหาที่เกี่ยวกับการบังคับอพยพผู้คนไปยังค่ายแรงงานในชนบท และข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
การพิจารณาคดีแรกต่อ นายนวน เจีย “สหายหมายเลข 2” อายุ 87 ปี และนายเขียน สัมพัน อดีตประธานแห่งรัฐ อายุ 82 ปี สิ้นสุดลงเมื่อปีก่อน และคำตัดสินคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลางปี ตามการระบุของโฆษกศาลเขมรแดง
ในการพิจารณาดคีแรกของศาลเมื่อปี 2553 ศาลได้ตัดสินโทษจำคุกนายกาง กึ๊ก เอียว หรือ สหายดุช อดีตผู้บัญชาการเรือนจำ S-21 เป็นเวลา 30 ปี และต่อมา ได้ปรับเพิ่มเป็นจำคุกตลอดชีวิต จากการเป็นผู้ควบคุมการเสียชีวิตของผู้คน 15,000 คน.