เอเอฟพี - อัยการศาลอาชญากรรมสงครามของกัมพูชา วานนี้ (17) กล่าวหาอดีตแกนนำเขมรแดง 2 คน ว่า มี “บทบาทสำคัญ” ในการปกครองสมัยเขมรแดงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับล้านคนในช่วงปลายทศวรรษ 1970
การแถลงปิดคดีของอัยการศาล ได้กล่าวหาว่า นายนวน เจีย อายุ 87 ปี และนายเขียว สัมพัน อายุ 82 ปี มีส่วนในเหตุสยองขวัญอันเลวร้ายที่สุดของศตวรรษที่ 20
นับเป็นเวลามากกว่า 3 ทศวรรษ หลังยุคทุ่งสังหาร ศาลที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนกำลังเข้าใกล้การพิพากษาตัดสินโทษความผิดในคดีที่ซับซ้อน ที่ทำให้ต้องแบ่งพิจารณาคดีแยกย่อยลงไป
การพิจารณาคดีแรกมุ่งไปที่ประเด็นการบังคับให้ประชาชนอพยพไปอยู่ในค่ายแรงงานในชนบท และข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
“นวน เจีย และเขียว สัมพัน ต่างมีบทบาทที่แตกต่าง และสำคัญในองค์กรอาชญากรรมที่ประหาร ทรมาน และฆ่าเพื่อนร่วมชาติชาวกัมพูชา พวกเขาตั้งใจก่ออาชญากรรมเหล่านี้ ซึ่งหลักฐานนั้นมีเพียงพอที่จะระบุความผิด” เจีย เลียง อัยการ กล่าวต่อศาล
การอพยพคนออกจากกรุงพนมเปญในเดือน เม.ย. พ.ศ.2518 ทำให้เมืองร้างในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน เป็นหนึ่งในการบังคับอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
ประชาชนมากกว่า 2 ล้านคน ถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวง และเดินไปยังค่ายแรงงาน ที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขมรแดงที่จะสร้างสังคมอุดมคติ
ไม่มีความเมตตาปรากฏให้เห็นต่อบรรดาผู้อ่อนแอในการเดินทาง ผู้ป่วยถูกบังคับให้เดินไปพร้อมกับสายน้ำเกลือ ขณะที่หญิงตั้งครรภ์ต้องคลอดลูกริมถนน
จำเลยทั้งคู่ต่างปฏิเสธข้อหาอาชญากรรมสงคราม การก่ออาชญากรรมสงครามต่อมนุษยชาติ และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
เจีย เลียง ยังกล่าวหาว่านวน เจีย “โกหก” เมื่อระบุว่า ตัวเขาไม่ทราบเป้าหมายของการอพยพคนออกจากเมือง
“มันเป็นการลงโทษต่อคนที่ถูกตราว่าเป็นศัตรู” อัยการ กล่าว
การพิจารณาคดี ที่เริ่มพิจารณาหลักฐานในปลายปี 2554 ถูกมองว่าเป็นเครื่องหมายสำคัญในการแสวงหาความยุติธรรมของชาติ
การแถลงปิดคดีมีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนหน้า และการตัดสินโทษคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2557
สำหรับข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่รวมทั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และอาชญากรรมสงคราม มีกำหนดจะพิจารณาในการพิจารณาครั้งต่อๆ ไป แต่ยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัด แต่บรรดาผู้สังเกตการณ์ และผู้รอดชีวิตต่างวิตกกันเกี่ยวกับความเร็วของการดำเนินการ และอายุของผู้ถูกกล่าวหา.