อีเลฟเว่นนิวส์ - เจ้าหน้าที่ด้านการบินของพม่าเผยว่า อัตราการเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยในสนามบินนานาชาติย่างกุ้งเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความแออัด และพื้นที่ไม่เพียงพอภายในสนามบินที่เป็นประตูเข้าออกระหว่างประเทศหลักของประเทศแห่งนี้
เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เครื่องบินแอร์บัส ของสายการบินโกลเด้นเมียนมาร์ เสียการควบคุมและวิ่งไปยังท้ายเครื่องบินของสายการบินเมียนมาร์แอร์เวย์ส อินเตอร์เนชันแนล ที่กำลังวิ่งอยู่บนรันเวย์
“ยานพาหนะในสนามบินทั้งที่ใช้ลากจูงเครื่องบิน หรือให้บริการภาคพื้นดินต้องวิ่งผ่านใต้ปีกเครื่องบิน เพราะความแออัด และมีอุบัติเหตุเกิดเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเครื่องบินจำนวนมากใช้สนามบิน” เจ้าหน้าที่จากกรมการบินพลเรือนพม่า กล่าว
สายการบินภายในประเทศ และระหว่างประเทศรวม 29 สายการบิน ใช้บริการสนามบินนานาขาติย่างกุ้ง ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับเครื่องบินได้เพียง 16 ลำในแต่ละครั้ง ทำให้การบริการภาคพื้นดินและเจ้าหน้าที่อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากในการจัดการกับเครื่องบินที่มีจำนวนมากขึ้นนี้ และบ่อยครั้งที่สนามบินเหลือพื้นที่จอด หรือพื้นที่หลบหลีกเพียงเล็กน้อย
“เรามีพื้นที่จอดเครื่องบินเพียง 16 ลำเท่านั้น แต่ตอนนี้เรามีเครื่องบิน 29 ลำจอดอยู่” เจ้าหน้าที่ กล่าว
นอกจากนั้น ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. เมื่อเครื่องบินของสายการบินไชน่า แอร์ไลน์ส เติมเชื้อเพลิง และเครื่องยนต์ของรถจ่ายเชื้อเพลิงเกิดความร้อนสูง และปล่อยควันออกมา ส่วนอุบัติเหตุอีกเหตุการณ์หนึ่งคือ รถในสนามบินชนเข้ากับประตูทางออกของเครื่องบินสายการบินอินเดีย แอร์ไลน์ จนได้รับความเสียหาย
สายการบินต่างชาติหลายแห่งยังวางแผนที่จะให้บริการบินตรงมายังสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง ที่จำนวนนักท่องเที่ยวนั้นเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกปี ขณะที่สายการบินภายในประเทศก็กำลังวางแผนขยายฝูงบินเพื่อแข่งขันกับสายการบินต่างชาติด้วยเช่นกัน
รัฐบาลพม่ากำลังวางแผนที่จะสร้างสนามบินนานาชาติหงสาวดี เพื่อขยายรันเวย์ และสามารถให้บริการเครื่องบินได้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน พม่ามีสนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ตั้งอยู่ในนครย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และกรุงเนปีดอ ที่กำลังพยายามปรับปรุงให้สามารถสนองตอบความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากสายการบินต่างๆ ที่บินมายังปลายทางท่องเที่ยวของพม่า.