เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา อนุมัติข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับเวียดนามแล้ว นับเป็นความเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การขายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ให้แก่เวียดนาม
หลังจากประธานาธิบดีโอบามา อนุมัติ สภาคองเกรสจะดำเนินการทบทวนร่างเป็นเวลา 90 วัน และหากไม่มีเสียงคัดค้านจากสมาชิกรัฐสภา กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ทันที
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เวียดนามได้ให้คำมั่นว่าจะไม่ผลิตสารกัมมันตรังสีสำหรับอาวุธนิวเคลียร์ และลงนามในมาตรฐานการป้องกันการเผยแพร่นิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโอบามา ได้กล่าวในบันทึกข้อความต่อกระทรวงพลังงานว่า ได้พิจารณาแล้วว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยส่งเสริม และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการป้องกัน และความปลอดภัย
เวียดนามเห็นชอบที่จะไม่เสริมสมรรถนะ หรือแปรสภาพยูเรเนียม อันเป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ในข้อตกลงที่ลงนามกันนอกรอบการประชุมเอเชียตะวันออกที่บรูไน เมื่อเดือน ต.ค. และเวียดนาม ยังได้ให้คำมั่นที่จะหาส่วนประกอบสำหรับวัฏจักรเชื้อเพลิงนิวเคลียร์แบบเปิดในตลาดโลก
เวียดนามเป็นตลาดพลังงานนิวเคลียร์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกรองจากจีน คาดว่าจะเติบโตถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2573
เวียดนามเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนพลังงานและพยายามที่จะใช้พลังงานนิวเคลียร์ช่วยบรรเทาปัญหา โดยรัฐบาลมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศให้สามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 และหวังให้พลังงานนิวเคลียร์รองรับการผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 10% ของความต้องการพลังงานทั้งหมดของประเทศ ในปี 2573
ปัจจุบันเวียดนามมีข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์กับรัสเซีย และแม้ว่ารัฐบาลมุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานนิวเคลียร์ แต่ก็ยังมีผู้ไม่เห็นด้วยเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว หรือสึนามิ.