ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ภาพคนร้ายที่มีปืนเป็นอาวุธบุกเดี่ยวปล้นร้านทองในแขวงอัตตะปือ ที่มีผู้นำขึ้นเผยแพร่ในเว็บไซต์กับเว็บบล็อกปลายสัปดาห์นี้ ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตลาวเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เหตุการณ์เช่นนี้ดูจะเป็นเรื่องที่คุ้นเคย แต่สำหรับคอมมิวนิสต์ลาวการปล้นอุกอาจเช่นนี้นับเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติธรรมดา
ภาพบรรยายว่า คนร้ายใช้ปืนยิงขู่ผู้ผ่านไปพบเห็นเหตุการณ์หลังการปล้นในขณะที่พยายามหลบหนี และเจ้าของร้านได้ใช้ปืนยิงต่อสู้แต่ก็ไม่เป็นผล แม้ว่าจะไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็ตาม
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ลาวพัฒนา เหตุเกิดเวลาประมาณ 16 น. วันที่ 3 พ.ย.2556 ที่เมือง (อำเภอ) สามัคคีไซ แขวง (จังหวัด) อัตตะปือ ทางตอนใต้ของประเทศ คนร้ายสวมหมวกกันน็อก เลื่อนกระจกกันลมปิดหน้า สวมเสื้อผ้าร่มกันลม มีรถจักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียนเป็นพาหนะไปจอดที่หน้าร้านขายทองของนายบุนเส็ง คำวงสา
ภาพจากกล่องวงจรปิดของร้านแสดงให้เห็นคนร้ายที่ลงมือเพียงลำพังเดินเข้าไปในร้าย ควักปืนพกสั้นขู่พนักงานกับเจ้าของร้านอย่างอุกอาจ ก่อนใช้ค้อนที่เตรียมไปด้วยทุบตู้กระจก และกวาดเอาทองรูปพรรณไปรวมน้ำหนัก 3 กิโลกรัม สื่อของรัฐกล่าว
หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นของสมาคมนักข่าวลาวไม่ได้รายงานในรายละเอียดอื่นใดอีก แต่ภาพที่มีผู้นำขึ้นเผยแพร่ระบุว่า มีเหตุการณ์ยิงต่อสู้กันอย่างที่กล่าวมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ลาวพัฒนาอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระบุว่า รับเป็นกระทำการที่เป็นอันตรายต่อสังคม ที่จะต้องเร่งติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายไปลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว
อาชญากรรมรุนแรงเป็นหนึ่งในบรรดา “ปรากฏการณ์ย่อท้อ” ในสังคมคอมมิวนิสต์ลาว เช่นเดียวกับการคอร์รัปชัน ปัญหาโสเภณี และยาเสพติด ขณะที่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวที่เป็นพรรครัฐบาลเพียงพรรคเดียวยึดถือทฤษฎีกับอุดมการณ์มาร์กซ์-เลนิน กำลังเร่งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ประชาชนพ้นความยากจนตามแนวเศรษฐกิจแบบตลาด
ทางการยอมรับว่า การพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลกับการพัฒนาทางวัฒนธรรมเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด “ปรากฏการย่อท้อ” ในสังคม.