ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ไต้ฝุ่นลูกใหม่ชื่อเขมร กำลังปั่นตัวเองอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลจีนใต้ในวันอาทิตย์ 3 พ.ย.นี้ และกำลังจะเบี่ยงหัวลงใต้ตัดข้ามทะเลใหญ่สู่ภาคใต้เวียดนามด้วยความเร็ว โดยมีปลายทางชัดเจนที่บ้านเกิด.. กัมพูชา สำนักงานพยากรณ์อากาศหลายแห่งในภูมิภาคได้กล่าวเตือนให้ชาวเรือในย่านนี้ระวังคลื่นลมแรง ขณะที่ทางการเวียดนาม เตือนหลายจังหวัดภาคกลางเตรียมความพร้อมรับมือ
ไต้ฝุ่นกรอ-ซา (Krosa) ซึ่งกัมพูชาตั้งชื่อตามชื่อ “นกกระสา” ซึ่งเป็นนกพื้นเมืองพันธุ์หนึ่ง ก่อเกิดขึ้นในทะเลแปซิฟิกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเคลื่อนผ่านเกาะภาคเหนือฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้เมื่อวันศุกร์ ขณะเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 ก่อนจะอ่อนตัวลงเป็นระดับ 1 ขณะอาละวาดอยู่ในทะเลใกล้เขตพิเศษฮ่องกง และเกาะมาเก๊าในวันอาทิตย์นี้
แผนภูมิพยากรณ์ของสำนักอุตุนิยมวิทยาหลายแห่งต่างชี้ตรงกันว่า ไต้ฝุ่นกระสา กำลังจะอ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อนขณะหักหัวลงในแนวตะวันตกเฉียงใต้ตัดข้ามทะเลด้วยความเร็ว 20-25 กิโลเมตร/ชั่วโมง คาดว่าจะถึงฝั่งภาคกลางเวียดนาม แถบนครด่านหนัง เวลาเช้าตรู่วันที่ 5 พ.ย.
คาดว่าพายุโซนร้อนกระสา จะรักษาแนวเดิมขณะเคลื่อนเข้าสู่เขตที่ราบสูงภาคกลาง และตัดตรงเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกัมพูชาในบ่ายวันเดียวกัน
ตามรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ไต้ฝุ่นที่ก่อตัวขึ้นในช่วงต้นฤดูหนาวเช่นนี้อาจจะอ่อนตัวเร็วกว่าปกติ และอาจกลายสภาพเป็นดีเปรสชันเมื่อเข้าถึงฝั่งภาคกลางในอีก 36 ชั่วโมงข้างหน้า
แม้จะไม่มีแรงลมในการพัดทำลาย แต่ก็จะทำให้เกิดในตกหนักอีกรอบหนึ่ง จังหวัดรายทางตั้งแต่เถือะเทียนเหว กว๋างหงาย กว๋างนาม จนถึงนครด่าหนัง จะต้องเตรียมรับเหตุรุนแรงเช่นน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
นครด่าหนัง เป็นจุดที่ไต้ฝุ่นนาดี (Nari) พัดเข้าเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราษฎรหลายหมื่นหลังคา คนกว่า 200,000 ตามพื้นที่เสียงต่างๆ ต้องอพยพออกไปอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัยชั่วคราว ไต้ฝุ่นลูกนี้ยังทำให้ระบบสาธารณูปโภ คและสาธารณสมบัติต่างๆ ถูกทำลาย หรือเสียหายอย่างสุดคณานับ
มีชาวเวียดนามเสียชีวิตร่วม 20 ราย ในช่วงที่ไต้ฝุ่นนาดีพัดผ่าน ซึ่งได้ทำให้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนนับแสนคนเป็นเวลาอีกหลายสัปดาห์ต่อมา
ปีนี้เป็นอีกปีที่ประชาชนในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงประสบอุทกภัยอันเนื่องมาจากพายุรุนแรงในทะเลจีนใต้อย่างหนักหนาสาหัส ในกัมพูชา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 122 คน ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.ที่ผ่านมา อีกกว่า 1.5 ล้านคน ได้รับผลกระทบ นาข้าวกว่า 1.5 ล้านไร่จมน้ำ ทางหลวงความยาว 110 กิโลเมตร กับถนนลูกรังอีกกว่า 300 กิโลเมตร ถูกทำลาย หรือเสียหาย
ในลาว มีราษฎรนับแสนคนได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในช่วงเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตหลายคน นาข้าวกับพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมากโดยเฉพะอย่างยิ่ง ในแขวงจำปาสัก เซกอง และอัตตะปือ ที่อยู่ตอนใต้ของประเทศ การระดมความช่วยเหลือไปพื้นที่ประสบเคราะห์ยังคงดำเนินมาจนถึงขณะนี้.
.