ASTVผู้จัดการออนไลน์ - การลงทุนของต่างชาติในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนจากประเทศไทย ซึ่งทางการเวียดนามกล่าวว่า “เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ” ขณะที่ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อัดเงินก้อนใหม่อีกระลอก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในจีนมากขึ้น หลังจากทุ่มเข้าไปที่นั่นมากมายในช่วงกว่า 10 ปีมานี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นในปีที่ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทในประเทศไทยเริ่มมีผลบังคับใช้ และเพียง 1 ปีหลังเกิดการจลาจลใหญ่ต่อต้านญี่ปุ่นในทั่วจีน ซึ่งนำไปสู่การบุกทำลายที่ตั้งโรงงาน และแหล่งผลประโยชน์ของนักลงทุนจากญี่ปุ่นในประเทศนั้นด้วย
ปีนี้นักลงทุนสิงคโปร์ กับนักลงทุนไทยได้แซงนักลงทุนจากไต้หวัน ขึ้นเป็นอันดับ 3 และ 4 ผู้ลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม ขณะที่ไต้หวัน ตกไปอยู่ในอันดับ 6 ในช่วงเดียวกันนี้
จนถึงวันที่ 20 ต.ค. เวียดนามออกใบอนุญาตให้แก่นักลงทุนต่างชาติรวม 1,050 โครงการ เป็นเงินทุนจดทะเบียน 13,077 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวถึง 79% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มีโครงการลงทุนเดิมอีกจำนวน 393 โครงการ เพิ่มเงินลงทุนจดทะเบียนซึ่งทำให้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 6,158 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 42.5% ทั้งนี้ เป็นตัวเลขของกระทรวงวางแผนและการลงทุน
ทั้งหมดนี้ทำให้เงินลงทุนของต่างชาติในเวียดนามช่วง 10 เดือนแรกของปีมีจำนานทั้งสิ้น 19,234 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 85.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุ
นักลงทุนจากญี่ปุ่นยังครองอันดับ 1 ด้วยเงินทุนจดทะเบียนทั้งโครงการใหม่ และเก่าที่เพิ่มทุนรวม 4,842 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 25.2% ของเงินลงทุนทั้งหมด เกาหลีเป็นอันดับ 2 ด้วยเงินทุน 4,019 ล้านดอลลาร์ หรือ 20.9% สิงคโปร์อันดับ 3 เงินทุน 3,985 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนจากประเทศไทย ได้ทะยานขึ้นเป็นผู้ลงทุนมากเป็นอันดับ 4 ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณสะท้อนให้เห็นการหนีค่าแรงใหม่ที่พุ่งพรวดขึ้นกว่า 2 เท่าเริ่มเมื่อต้นปีนี้ตามนโยบายของรัฐบาล
“การลงทุนจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างน่าแปลกใจ ทำให้เงินลงทุนทั้งโครงการเก่า และโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 3,408 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 17.7% ของเงินลงทุนจากต่างประเทศในเวียดนามทั้งหมดในปีนี้” รายงานของทางการระบุ
ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจาก 52 ประเทศ กับดินแดนเข้าลงทุนใน 18 แขนงเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ที่คิดเป็นประมาณ 65.5% ของทั้งหมด แขนงนี้มีการลงทุนใหม่ จำนวน 494 โครงการ เงินลงทุน 14,928 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 77.6% ของเงินทุนจดทะเบียนทั้งหมด
เมื่อมองในรายละเอียดจะเห็นว่า อุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังความร้อนจากก๊าซ และไฟฟ้าพลังน้ำ เป็นแขนงการลงทุนนำหน้า การผลิตเครื่องปรับอากาศเป็นอันดับ 2 ทำให้เงินทุนจดทะเบียนทั้งใหม่ และทุนที่เพิ่มเข้าไปในโครงการเก่ามีจำนวนรวมกันเป็น 2,031 ล้านดอลลาร์ อันดับ 3 เป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการลงทุนได้รับอนุญาตใหม่ 16 โครงการ เป็นเงินทุนทั้งโครงการใหม่ และเงินเพิ่มทุนโครงการเก่ารวม 588.2 ล้านดอลลาร์
.
2
3
4
5
6
7
ที่น่าพึงพอใจเป็นพิเศษก็คือ ในช่วงเดียวกันนี้นักลงทุนต่างชาติได้ใช้จ่ายเงินในโครงการต่างๆ ไปทั้งสิ้น 9,580 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.4% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปี 2555 รายงานของทางการกล่าว
ในขณะที่แขนงการลงทุนต่างชาตินำเข้าสินค้าเพื่อการผลิตรวมมูลค่า 61,990 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 25.7% และคิดเป็น 57.31% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด การส่งออกผลิตภัณฑ์จากการลงทุนของต่างประเทศ รวมทั้งน้ำมันดิบคาดว่าจะพุ่งขึ้นเป็น 72,085 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 22.3% และคิดเป็น 66.7% ของมูลค่าส่งออกของประเทศ
สรุปในภาพรวมในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ การค้าของแขนงการลงทุนของต่างประเทศในเวียดนามได้ดุลเป็นมูลค่า 10,095 ล้านดอลลาร์ แต่การค้าในระดับประเทศทั้งหมดยังขาดดุล 187 ล้านดอลลาร์
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจเวียดนามได้เผยแพร่ผลการวิจัยฉบับหนึ่งในช่วงกลางเดือนนี้ โดยระบุว่า การลงทุนจากญี่ปุ่นในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ นักลงทุนจากญี่ปุ่นหันเข้าลงทุนใน “6 แขนงการลงทุนที่มีคุณภาพ” เป็นหลัก ภายใต้นโยบายร่วมกันในระดับรัฐบาลของ 2 ประเทศ ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลการเกษตร การผลิตการเกษตร-อาหารทะเล การต่อเรือ การประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สภาพแวดล้อม การประกอบรถยนต์และผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
ตามรายงานของสื่อทางการ ทั้ง 6 แขนงการลงทุนดังกล่าว ได้รับการส่งเสริมการลงทุนมากเป็นพิเศษด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเวียดนาม กับรัฐบาลญี่ปุ่น และสามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนประเทศนั้นได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2556
ส่วนนักลงทุนจากไต้หวัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มีการลงทุนใหม่ที่ได้รับอนุญาต 41 โครงการ รวมมูลค่า 583.6 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อนับการลงทุนสะสมในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ ไต้หวันยังเป็นผู้ลงทุนใหญ่อันดับ 3 ในเวียดนาม ด้วยเงินลงทุนสะสมรวม 27,500 ล้านดอลลาร์ กระทรวงวางแผนและการลงทุนกล่าว.