ซินหวา - น้ำท่วมจากแม่น้ำโขง และฝนที่ตกอย่างหนักทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 คน และประชาชนมากกว่า 800,000 คน ได้รับผลกระทบในกัมพูชา ตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสจากหน่วยงานควบคุมภัยพิบัติของกัมพูชาระบุ
“จนถึงเวลานี้มีประชาชนเสียชีวิตจากการจมน้ำแล้ว 83 คน และราษฎรอีกมากกว่า 800,000 คน ใน 15 จังหวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม” นิม วันดา รองประธานคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (NCDM) กล่าวกับสำนักข่าวซินหวา
เจ้าหน้าที่ได้อพยพยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไปยังพื้นที่สูง กลุ่มการกุศลต่างๆ และกาชาดกัมพูชา ได้จัดหาความช่วยเหลือบรรเทาภัยฉุกเฉินให้แก่ครอบครัวประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนบ้านเรือนประชาชนราว 120,000 หลัง และพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 750,000 ไร่ จมอยู่ใต้น้ำ
นายนิม วันดา กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่มีน้ำท่วมฉับพลันเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เช่น จ.เสียมราฐ จ.โพธิสัด จ.พระตะบอง จ.บ้านใต้มีชัย และ จ.ไพลิน
“ในจ.เสียมราฐ สถานการณ์น้ำยังคงอยู่ในระดับเตือนภัย และบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 4,000 หลังจมอยู่ใต้น้ำ ราษฎรมากกว่า 6,000 ครอบครัว ต้องอพยพออกจากที่พักอาศัยไปยังพื้นที่สูง” เจ้าหน้าที่กล่าว
และเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) ฝนที่ตกอย่างหนัก และกระแสลมแรงได้ทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้มใส่ปราสาทพระขรรค์ สมัยศตวรรษที่ 12 ในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองพระนคร ซึ่งรองผู้อำนวยการองค์กรอัปสรา ที่ทำหน้าที่ดูแล และจัดการอุทยานระบุยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ข้อมูลว่าต้นไม้ดังกล่าว สูง 30 เมตร และมีขนาดกว้าง 0.8 เมตร ล้มใส่ตัวปราสาททำให้เกิดชิ้นส่วนเล็กๆ ของปราสาทแตกออก และร่วงหล่นลงมา แต่ไม่มีความเสียหายรุนแรงต่อตัวปราสาทแต่อย่างใด
เหตุอุทกภัยมักเกิดขึ้นในกัมพูชาระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค. และในปี 2554 กัมพูชาประสบกับภาวะอุทกภัยครั้งที่เลวร้ายที่สุด ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 250 คน ตามการระบุของคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ส่วนในปี 2555 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเพียง 14 คน.