xs
xsm
sm
md
lg

ฮุนเซนออกสมุดปกขาวแจงเลือกตั้งจบแล้ว เตือนกร้าวฝ่ายค้านชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนยิ้มระหว่างพบกับนายสมรังสีผู้นำฝ่ายค้านที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 17 ก.ย. รัฐบาลออก หนังสือปกขาว ในวันศุกร์ 20 ก.ย.นี้ ประกาศว่าทุกปัญหายุติลงแล้วและจะเดินหน้าเปิดประชุมรัฐสภาชุดใหม่ต่อไป ขณะที่กระทรวงมหาดไทยส่งจดหมายด่วนถึงจังหวัดต่างๆ ขอให้ชาวเขมรอยู่ในความสงบและเตือนกร้าว พวกก่อกวน ที่เตรียมเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล. -- REUTERS/Samrang Pring.</b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลกัมพูชา ได้นำออกเผยแพร่เอกสารที่เรียกว่า “หนังสือปกขาว” ในวันศุกร์ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งฉบับภาษาเขมร และภาษาอังกฤษ ยืนยันว่าปัญหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 ก.ค.นั้นจบไปแล้ว เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติได้ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับโจมตีพรรคกู้ชาติกัมพูชาฝ่ายค้านว่า กำลังปลุกเร้าประชาชนให้ต่อต้านรัฐบาล สร้างความปั่นป่วนในสังคมโดยใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จ

หนังสือปกขาวของรัฐบาลที่ลงวันที่ 17 ก.ย.2556 กล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นเป็นประเด็นหลังการเลือกตั้งได้รับการตรวจสอบอย่างครบถ้วนแล้วโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ รัฐบาลประเทศต่างๆ ยังได้ส่งสาสน์แสดงความยินต่อนายกรัฐมนตรีฮุนเซน กับพรรคประชาชนกัมพูชาอย่างมากมาย

ตามรายงานของสำนักข่าวกัมพูชา ในวันเดียวกัน นายซอเค็ง (Sar Kheng) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทย ได้ส่งหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด กับองค์การปกครองระดับท้องถิ่นทั่วประเทศชี้แจงสถานการณ์ปัจจุบัน โดยระบุว่า กำลังมีผู้ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความปั่นป่วนในสังคม ทำให้ประเทศไร้เสถียรภาพด้วยการให้ข้อมูลเท็จ จึงขอให้ประชาชนทั่วไปอยู่ในความสงบ และช่วยกันเป็นหูเป็นตารายงานความเคลื่อนไหวของพวกก่อกวนต่อทางการ

จดหมายของรัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวว่า ผู้นำพรรคประชาชนฯ กับพรรคฝ่ายค้านได้พบปะเจรจากัน 2 รอบ และได้เห็นพ้องกันในหลักการใหญ่ๆ ซึ่งทำให้นำไปสู่การเปิดประชุมรัฐสภาชุดใหม่ แต่ฝ่ายค้านประกาศคว่ำบาตรจะไม่เข้าร่วมพิธีเปิดในวันจันทร์ 23 ก.ย.นี้ และจะจัดชุมนุมต่อต้าน

รัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลผู้ว่าราชการจังหวัด และกำลังตำรวจทั่วประเทศยังกล่าวหาอีกว่า การชุมนุมประท้วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายค้านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงกับทางการกรุงพนมเปญที่อนุญาตให้จัดชุมนุมได้ภายใน “สวนประชาธิปไตย” เท่านั้น แต่ยังเดินขบวนไปยังที่ต่างๆ หลายแห่งซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และนำไปสู่การปะทะกันจนกระทั่งมีผู้เสียชีวิต 1 คน ซึ่งพรรคฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองในกัมพูชาตึงเครียดขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง หลังจากผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน กับพระสงฆ์หลายร้อยรูปได้เดินขบวนไปยังพระราชวังเมื่อวันศุกร์ทูลเกล้าฯ ยื่นฎีกาขอให้องค์พระประมุขทรงเลื่อนพระราชพิธีเปิดประชุมรัฐสภาออกไปจนกว่าการสอบสวนความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ

คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ ประกาศสัปดาห์ที่แล้วจะเริ่มตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1-10 ต.ค.นี้ โดยประกาศให้ผู้ที่ไม่มีชื่อไม่ได้ใช้สิทธิลงคะแนนนำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลักฐานไปตรวจสอบ รวมทั้งผู้ที่อายุครบ 18 ปี แต่ไม่มีชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งด้วย

นายสม รังสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติฯ กล่าวหาตั้งแต่หลังวันเลือกตั้งว่า พรรครัฐบาลโกงคะแนนด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งมีการลบรายชื่อผู้มีสิทธิออกจากบัญชีเลือกตั้งระหว่าง 1-1.3 ล้านคน และยังเพิ่ม “ผี” เข้าไปในบัญชีรายชื่ออีกหลายแสนชื่อ และเรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระเพื่อตรวจสอบ

นายรังสี ยืนยันว่า คณะกรรมการตรวจสอบจะต้องเป็นอิสระ และขอให้องค์การสหประชาชาติเข้ามีบทบาทด้วย แต่ฝ่ายรัฐบาลกล่าวว่า ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เนื่องจากเป็นการผิดกฎหมาย

หลังการลงคะแนนเสียงทั่วประเทศยุติลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ประกาศชัยชนะโดยอ้างว่า ได้คะแนนท่วมท้น 68 ที่นั่ง ในองค์กรนิติบัญญัติที่มีสมาชิก 123 คน อีก 55 ที่นั่งเป็นของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งพรรคกู้ชาติฯ ประกาศไม่ยอมรับการกล่าวอ้างดังกล่าว โดยระบุว่ามีการโกงเลือกตั้งอุตลุด

คณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาลได้ประกาศผลอย่างเป็นทางการสัปดาห์ที่แล้วยืนยันในตัวเลขที่รัฐบาลกล่าวอ้าง.
.
<br><FONT color=#000033>หนังสือปกขาว ชี้แจงสถานการณ์การเลือกตั้งซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าปัญหาต่างๆ สิ้นสุดแล้ว ประเด็นที่ฝ่ายค้านยกขึ้นมาหลังการเลือกตั้งได้รับการตรวจสอบแล้ว ถึงเวลาต้องเปิดประชุมสภาชุดใหม่แม้ฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมก็ตาม ทางการกัมพูชาออกหนังสือปกขาวทั้งฉบับภาษาเขมรและภาษาอังกฤษเพื่อส่งถึงประชาคมระหว่างประเทศ. -- ภาพ: สำนักข่าวกัมพูชา</b>
กำลังโหลดความคิดเห็น