เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเจื่อง เติ่น ซาง ของเวียดนาม กล่าววานนี้ (19) ว่า รัฐบาลเวียดนามกำลังพยายามที่จะปฏิรูประบบการเมืองของประเทศ หลังเผชิญกับคำถามที่กรุงโคเปนเฮเกนเกี่ยวกับประเด็นการปราบปรามบล็อกเกอร์ของประเทศ
“นอกเหนือจากการพัฒนาเศรษฐกิจ เรากำลังพยายามที่จะทำให้ชีวิตทางการเมืองของประชาชนอยู่ในจุดที่ดีขึ้น ผมคิดว่าไม่มีระบบอะไรที่จะสมบูรณ์แบบ ทุกระบบต้องปฏิรูปตัวเองเพื่อการพัฒนา เราจะปรับปรุงสถานการณ์ในเวียดนามต่อไป” ประธานาธิบดีซาง กล่าว
ประธานาธิบดีเวียดนาม กล่าวในการแถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีเฮลเล ธอร์นนิ่ง-ชมิดท์ ของเดนมาร์ก ระหว่างการเยือนเดนมาร์ก ที่เป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เป็นเวลา 3 วัน
ประเทศในภูมิภาคสแกนดิเนเวียแห่งนี้ที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในระดับสูง หวังที่จะใช้อิทธิพลจากความสัมพันธ์ดังกล่าวเพื่อโอกาสทางธุรกิจ ขณะที่เศรษฐกิจของเวียดนามกำลังขยายตัว แต่แผนการเหล่านั้นได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังรัฐบาลเวียดนามเริ่มปราบปรามเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นในช่วงปลายปี 2552
เวียดนามห้ามกิจการสื่อโดยเอกชน และหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และสถานีโทรทัศน์ทุกช่องล้วนดำเนินการโดยรัฐ ส่วนบรรดาทนายความ บล็อกเกอร์ และนักเคลื่อนไหว มักถูกจับกุม และควบคุมตัว
เมื่อเดือนที่ผ่านมา นักข่าวสายสืบสวนสอบสวนมือรางวัลที่เคยเปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศได้ถูกจับกุมตัวในข้อหารับสินบน
ด้านองค์กรนักข่าวไร้พรมแดน ระบุในเดือน ก.ค. ว่า เวียดนามเป็นรองแค่จีนเท่านั้นในจำนวนบล็อกเกอร์ที่ถูกทางการควบคุมตัว
ประธานาธิบดีเวียดนาม ยอมรับว่า ระบบการเมืองของประเทศมีข้อบกพร่อง แต่ยืนยันว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และระบุว่า มีบล็อกเกอร์อิสระกว่า 4 ล้านคนในประเทศ.