ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นครย่างกุ้ง ที่มีประชากรกว่า 6 ล้านคน กลายเป็นเมืองที่การจราจรติดขัดอย่างรุนแรงอีกแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลายฝ่ายกล่าวโทษรัฐบาลประธานาธิบดีเต็งเส่งที่เปลี่ยนนโยบายอนุญาตให้นำเข้ารถยนต์ ซึ่งที่ผ่านมา ในเมืองหลวงเก่าแห่งนี้มีรถใหม่ผุดขึ้นบนท้องถนนเกือบ 200,000 คัน
ก่อนหน้านั้น รัฐบาลห้ามนำเข้ารถยนต์อย่างเด็ดขาด แต่จะผ่อนผันให้เพียงไม่กี่กรณีซึ่งผลดีก็คือประหยัดเงินตราต่างประเทศที่หายากในยุคที่พม่าอยู่ใต้ระบอบปกครองทหาร ทั้งที่เป็นค่ายานพาหนะเอง และเงินงบประมาณที่จะต้องนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่มหาศาลยิ่งกว่า
ในยุคก่อน รัฐบาลเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเองทั้งหมด ก่อนที่รัฐบาลทหารจะเริ่มแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่างๆ ในช่วงปลายๆ ยุค คือ ปี พ.ศ.2550-2553
เพราะฉะนั้น ใครที่เดินทางไปกรุงย่างกุ้งเพียง 2 ปีก่อนหน้านี้ ก็จะเห็นแต่รถยนต์เก่าๆ ที่จำนวนมากใช้งานมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงวิ่งอยู่ตามถนน ผ่านการซ่อมแล้วซ่อมอีกเพื่อให้ใช้งานได้ โดยเอกชนนำเข้าอะไหล่เก่ากับเครื่องยนต์เก่าจากต่างประเทศ แต่ผลดีก็คือ การจราจรที่คล่องตัวมากกว่า ในขณะที่รัฐบาลได้พยายามชักชวนให้ประชาชนทั่วไปใช้บริการรถไฟสายรอบเมืองแทน
แล้วจู่ๆ กรุงเก่าก็มีรถยนต์ชนิด และขนาดต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 แสนคัน ปัญหารถติดก็จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่พื้นผิวการจราจรยังมีอยู่เท่าๆ เดิมขยับขยายไม่ทันกับจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นแบบทันทีทันใด สะพาน และถนนสายใหม่ก็สร้างไม่ทัน รถติดกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในย่านตัวเมืองเก่าที่ถนนแคบ
ก่อนหน้านี้ ในเมืองหลวงพม่ามีรถยนต์ชนิดต่างๆ จำนวนเพียง 100,000 คัน กับเศษอีกเล็กน้อยเท่านั้น การนำเข้ารถใหม่ทำให้จำนวนรถเพิ่มขึ้นเป็น 303,840 คันทันที อีเลฟเว่นส์นิวส์อ้างตัวเลขของนายมี้นส่วย (Myint Swe) มุขมนตรีเขตย่างกุ้ง
“ตอนนี้ปัญหาใหญ่ก็คือ รถติดซึ่งเราได้รับการร้องเรียนมาก บางครั้งรถติดในเมืองกินเวลา 2-3 ชั่วโมง ทำให้ตำรวจจราจรต้องพยายามอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้” นายมี้นส่วยกล่าว
นอกจากปัญหารถติดแล้ว ปัญหาที่ติดตามมา และชาวย่างกุ้งต้องเผชิญอยู่ทุกวันก็ยังมีอีกมาก เช่น การจอดรถเกะกะไม่เคารพกฎ สถานที่จอดรถมีไม่พอ ขับรถกิริยามารยาทไม่ดี และเจ้าหน้าที่จราจรก็มีไม่พอ นายมี้นส่วยกล่าว
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานด้วยว่า ปัจจุบันยังมีรถนำเข้าอีกราว 5,000 คัน จอดอยู่ที่ท่าเรือติลาวารอการชำระภาษี อีกจำนวนมากจอดตามโชว์รูมต่างๆ ซึ่งวันหนึ่งข้างหน้ารถทั้งหมดก็จะลงสู่ท้องถนน เพิ่มปัญหารถติดให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น
หลังจากตกอยู่ใต้การปกครองของระบอบทหารมานานครึ่งทศวรรษ พม่าได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในเดือน พ.ย.2553 รัฐบาลกึ่งพลเรือนชุดแรกได้เข้าบริหารประเทศในเดือน มี.ค.ปีถัดมา ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ได้เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศอย่างรอบด้าน ให้เสรีภาพแก่สื่อมวลชน ปลดปล่อยนักโทษการเมือง ปรับปรุงแก้ไขระบบการเงินการธนาคารให้ได้มาตรฐานสากล รวมทั้งลอยตัวค่าเงินจ๊าต
เพียง 2 ปีเท่านั้น พม่าได้กลายเป็นปลายทางสุดฮอตสำหรับการลงทุนของต่างประเทศ การค้าขายก็คึกคัก เขตเศรษฐกิจพิเศษกำลังผุดขึ้นในย่านท่าเรือ กับย่านชานเมือง การพัฒนาอย่างรอบด้านที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วทำให้มีความต้องการการคมนาคมขนส่งที่สะดวกมากขึ้น และการนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
ปัจจุบัน พม่ากำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดกว้างทางการเมืองยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านสามารถเข้าชิงตำแหน่งผู้นำคนต่อไปได้ด้วย ก่อนหน้านี้ ได้เคยมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบย่อยๆ มาครั้งหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้ นางซูจี ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งพรรคฝ่ายค้านชนะแบบถล่มทลาย
ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจคาดว่า พม่าอาจจะต้องนำเข้ารถยนต์อีกเท่าตัวในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ และได้กล่าวเตือนให้รัฐบาลต้องเร่งจัดมาตรการรองรับ เพราะเมื่อถึงวันนั้นปัญหาการจราจรติดขัดจะลามไปยังนครมัณฑะเลย์ กับเมืองใหญ่อื่นๆ รวมทั้งพะโค เมาะตะมะ ไกลขึ้นไปจนถึงเมืองตองยีในรัฐชาน กับสิตตเวทางตะวันตกด้วย.
.
2
3
4
5
6