ASTVผู้จัดการออนไลน์ – เป็นเรื่องที่ดูจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปี 2513 นี้นักลงทุนชาวลาวเองได้กลายเป็นผู้ลงทุนมากเป็นอันดับ 2 ในประเทศ แซงหน้านักลงทุนจากไทยและเวียดนาม เป็นรองเพียงนักลงทุนจากจีนเท่านั้น มีการเปิดเผยเรื่องนี้ในรายงานบันทึกการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำเดือน ก.ย. ที่รายงานโดยสำนักข่าวทางการ
นักลงทุนจากจีนลงทุนในลาวรวมเป็นมูลค่า 1,337 ล้านดอลลาร์ เป็นอันดับ 1 ในบรรดานักลงทุนจาก 12 ประเทศและดินแดน นักลงทุนชาวลาวรองลงไปรวมมูลค่า 530 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยนักลงทุนจากไทย 416 ล้านดอลลาร์ขณะที่นักลงทุนเวียดนามที่ครองอันดับ 1, 2 หรือ 3 ตลอด 10 ปีมานี้หลุดอันดับไปเป็นครั้งแรกเช่นกัน
ตามรายงานของนายบุนทะวี สีสุพันทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแผนการและการลงทุน เกือบ 1 ปีมานี้มีการลงทุนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศรวม 52 โครงการใน 7 แขนงรวมเป็นเงินทุนที่ได้รับอนุมัติทั้งสิ้น 3,000 ล้านดอลลาร์ มูลค่าเพิ่มขึ้น 5.1% เกินแผนการตลอดทั้งปีถึง 79% สำนักข่าวสารปะเทดลาวกล่าว
การผลิตไฟฟ้ายังเป็นแขนงลงทุนนำหน้ามีมูลค่าลงทุนรวม 1,099 ล้านดอลลาร์ โครงการผลิตไฟฟ้าเขื่อนน้ำเงียบ 1 เพียงแห่งเดียวมีมูลค่า 868 ล้านดอลลาร์ ขปล.กล่าว
อย่างไรก็ตามการลงทุนหลายโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้วยังมีความล่าช้าเนื่องจากปัญหาภายของผู้ลงทุนเอง รวมทั้งปัญหาขาดประสบการณ์ ขาดเงินทุน ทำให้มีการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อดำเนินโครงการคิดเป็นมูลค่ารวมเพียง 1,100 ล้านดอลลาร์เท่านั้น คิดเป็นเพียง 37% ของมูลค่ารวมการลงทุนที่อนุมัติ
หลายปีมานี้นักลงทุนชาวลาวได้เข้าร่วมทุนกันเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ หลายแขนงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก อุตสาหกรรมการผลิตและบริการ รวมทั้งเข้าลงทุนในแขนงก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้แก่ภาครัฐในรูปแบบจ่ายไปก่อนและรัฐบาลชำระหนี้ในภายหลังพร้อมดอกเบี้ย
ชาวลาวจำนวนมากใช้เงินทุนทุ่มเข้าในแขนงอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกพืชเศรษฐกิจต่างๆ.