ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูา กับนายสมรังสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา พร้อมสมาชิกระดับสูงของแต่ละฝ่ายอีกจำนวนหนึ่ง ได้พบปะกันในพระราชวังกรุงพนมเปญตอนเช้าวันเสาร์ 14 ก.ย.นี้ โดยสมเด็จพระนโรดมบรมนาถสีหมุนีกษัตริย์ แห่งกัมพูชา ทรงเป็นประธาน
การพบปะดังกล่าวดูจะเป็นความพยายามขององค์พระประมุขในการช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองของประเทศ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในช่วงเวลาเกือบ 9 ปีที่ทรงครองราชย์
ยังไม่มีการเปิดเผยผลการพบปะหารือดังกล่าว แต่กษัตริย์แห่งกัมพูชาทรงมอบพระราชสาสน์เชิญสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People's Party) กับพรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) เข้าร่วมในพระราชพิธีเปิดรัฐสภาที่มีกำหนดขึ้นวันที่ 23 ก.ย.ศกนี้ สำนักข่าวกัมพูชารายงาน
“ข้าพเจ้ามีความยินดีใคร่ขอเชิญชวนสมาชิกสภานิติบัญญัติที่ได้รับเลือกตั้งใหม่ทุกท่านเข้าร่วมการเปิดประชุมรัฐสภาครั้งนี้ และข้าพเจ้าเชื่อว่า พรรคการเมืองทั้ง 2 พรรคจะดำเนินการตามประสงค์ของประชาชนเพื่อความสุข ความก้าวหน้า และพยายามอย่างสุดความสามารถของทุกคนในการแก้ปัญหาระดับชาติต่างๆ ตามความปรารถนาของประชาชนที่จะได้เห็นการมีผลประโยชน์ร่วมกัน” สำนักข่าวกัมพูชาอ้างพระราชดำรัสขององค์พระประมุข
กษัตริย์แห่งกัมพูชา ยังทรงแสดงความยินดี และพึงพอพระราชหฤทัยที่เห็นพรรคการเมืองทั้ง 2 ต่างได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจำนวนมากในการเลือกตั้งวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวซึ่งเป็นของรัฐบาลรายงาน
“ข้าพเจ้ามีความปรารถนาที่จะเห็นพรรคการเมืองทั้ง 2 ร่วมมือกันและกันบนความเข้าใจอันดีระหว่างกันเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม” พระประมุขแห่งกัมพูชาตรัส
สมเด็จพระนโรดมบรมนาถสีหมุนี และพระราชมารดา คือ พระราชินีนโรดมโมนิคมุนีนาถ เสด็จกลับกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากทรงไปรับการถวายตรวจพระสุขภาพตามกำหนดในกรุงปักกิ่ง และทรงมีพระราชสาสน์เชิญผู้นำทางการเมืองฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านประชุมพบปะกันภายในพระราชวังเขมรินทร์ เวลา 09.00 น. วันเสาร์นี้ สำนักข่าวกัมพูชากล่าว
ผลการเลือกตั้งที่ประกาศอย่างเป็นทางการปลายสัปดาห์ที่แล้ว CPP ได้ 38 ที่นั่ง จากทั้งหมด 123 ที่นั่งในรัฐสภา (หรือสภาผู้แทนราษฎร) ขณะที่ CNRP ได้ 55 ที่นั่ง ซึ่งฝ่ายค้านกล่าวหาว่ามีการทุจริตอย่างมากมาย และเรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการที่มีองค์การสหประชาชาติเข้าร่วมการสอบหาข้อเท็จจริง
พรรคฝ่ายค้านยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ทางการประกาศ และประกาศจัดชุมนุมอย่างสงบทั่วประเทศเพื่อประท้วงจนกว่าจะมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
การพบปะระหว่าง 2 ขั้วทางการเมืองยังมีขึ้นเพียง 1 วันก่อน CNRP จะจัดชุมนุมใหญ่ในกรุงพนมเปญ โดยทางกระทรวงมหาดไทย อนุญาตให้มีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 10,000 คน ห้ามเดินขบวนตระเวนล่ารายชื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งจากประชาชนทั่วไปตามที่ร้องขอ และห้ามพักแรมคืนภายในสวนประชาธิปไตยดังกล่าว
นอกจากนั้น ก็ยังมีขึ้นเพียงข้ามวันหลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตรวจพบระเบิดทีเอ็นทีถูกนำไปวางไว้ใกล้ประตูเข้าสู่อาคารรัฐสภา และเก็บกู้ด้วยการระเบิดทิ้ง นอกจากนั้น ยังพบระเบิดอีกชุดหนึ่งซุกซ่อนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งหลายฝ่ายกล่าวว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ข่มขู่ และใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายค้าน
.
พระราชกรณียกิจพิเศษ สำนักข่าวกัมพูชา
.
รัฐบาลฮุนเซน ได้ออกกฎหมายฉบับหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ จัดระเบียบการชุมนุชมประท้วงต่างๆ ที่จะต้องขออนุญาตล่วงหน้า และให้จัดภายในบริเวณลานกว้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่เรียกว่า “สวนประชาธิปไตย” (Democracy Park) เท่านั้น ห้ามเดินขบวนในเมืองอย่างเด็ดขาด
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ ผู้ประท้วงกลุ่มต่างๆ ในหลากหลายปัญหานิยมไปชุมนุมประท้วงที่อนุสาวรีย์เอกราชอันเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์วิมานเอกราชซึ่งเป็นบ้านพักส่วนตัวของผู้นำกับครอบครัว
สมเด็จพระนโรดมบรมนาถสีหมุนี ซึ่งปัจจุบันทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ที่ทรงสละราชบัลลังก์ในเดือน ต.ค.2547 พระองค์ถูกมองว่าทรงเป็นพระประมุขในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจทางการเมืองใดๆ
สิ่งนี้ยังเป็นความต้องการของฮุนเซน กับคณะผู้นำปัจจุบันที่อยู่ในอำนาจติดต่อกันมายาวนาน 30 ปี ที่พระราชวังจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กษัตริย์แห่งกัมพูชาทรงออกเยี่ยมเยือนประชาชนในหลายจังหวัดทั่วประเทศ และทรงได้รับความนิยมจากประชาชนกัมพูชามากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนั้น วันเฉลิมพระชนมพรรษาปีนี้ยังเสด็จไปบำเพ็ญพระราชกุศลในจังหวัดกัมปงจาม ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฮุนเซน กับเจียซิม ประธานวุฒิสภาอีกด้วย โดยมิได้มีพระราชพิธีอันเป็นพิเศษใดๆ ในกรุงพนมเปญ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความพยายามเข้าใกล้ชิดประชาชนให้มากยิ่งๆ ขึ้น.