ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการเวียดนามเพิ่งเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า เงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยง เงินประจำตำแหน่งต่างๆ กับเงินสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ ทั้งหมดรวมเป็นเงินเพียงประมาณ 17 ล้านด่ง (805 ดอลลาร์) เท่านั้น เทียบไม่ได้กับผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่รับเงินเดือนกว่า 10,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ เงินเดือนผู้นำรัฐบาลเป็นไปตามกฎระเบียบของพรรคคอมมิวนิสต์ ขณะที่เงินเดือนในภาครัฐนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล และฐานะทางการเงินของหน่วยงาน
นายเหวียนกีงก๊วก (Nguyen Kinh Quoc) รองเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยตัวเลขนี้ในการแถลงข่าวบ่ายวันพุธ 28 ส.ค. เป็นการตอบคำถามของสื่อมวลชนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิจารณ์เงินเดือนผู้บริหารรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ที่สูงมาก ทำให้เกิดความสงสัยว่า เงินเดือนของนายกรัฐมนตรีน่าจะสูงกว่านั้นหลายเท่า
“แต่ตัวเลขที่เปิดเผยโดยรองเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี คงจะทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกช็อกว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร” หนังสือพิมพ์ออนไลน์เหงือยเดือติน หรือ “ข่าวสารกฎหมายเพื่อชีวิตประจำวัน” รายงานในวันพฤหัสบดีนี้
นายก๊วก กล่าวว่า ตามระบบของพรรคคอมมิวนิสต์ ค่าสัมประสิทธิ์เงินเดือนนายกรัฐมนตรีคือ 12.5 และเงินสิทธิประโยชน์อื่นๆ 3.13 เท่ากับเงินเดือนพื้นฐาน 15,000,000 ด่ง (714 ดอลลาร์) บวกกับเงินรายได้ในรูปโบนัสต่างๆ จากภาครัฐ ซึ่งทำให้นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) มีรายได้รวมกันทั้งหมด 17 ล้านด่งต่อเดือน คือ เงินเดือนรวมเงินสวัสดิการ และเงินโบนัส หลังจากหักค่าประกันสังคม และเบี้ยประกันต่างๆ
ก่อนหน้านั้น สื่อของทางได้รายงานตัวเลขอันน่าตกใจเกี่ยวกับเงินเดือนผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจบางแห่ง โดยยกกรณีตัวอย่างผู้อำนวยการบริษัทระบายน้ำในสังกัดนครโฮจิมินห์ที่สูงถึง 2,600 ล้านด่ง (126,600 ดอลลาร์) ต่อปี หรือ 10,250 ดอลลาร์ต่อเดือน อัตรานี้สูงกว่าเงินเดือนพนักงานพื้นฐานของหน่วยงาน 41 เท่า สูงกว่าเงินเดือนนายกรัฐมนตรี 12.7 เท่า ขณะที่เงินเดือนหัวหน้าฝ่ายบัญชีของรัฐวิสาหกิจระดับท้องถิ่นแห่งนี้คือ 1,970 ล้านด่ง หรือ 93,809 ดอลลาร์ต่อปี
เงินเดือนผู้อำนวยการบริษัทไฟฟ้าในเมืองที่รับผิดชอบความสว่างภายในเขตเทศบาลนครปีละ 2,200 ล้านด่ง (107,461 ดอลลาร์) และเงินเดือนหัวหน้าฝ่ายบัญชีรัฐวิสาหกิจแห่งนี้คือ 1,700 ล้านด่ง (80,952 ดอลลาร์) ต่อปี
.
.
รายงานของสื่อต่างๆ ได้ทำให้ทางการนครโฮจิมินห์ไหวตัว และสั่งการให้ผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่งต้องลดเงินเดือนลงให้เท่ากับอัตราในระเบียบทางการ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่งอ้างว่าเงินเดือนของตนขึ้นอยู่กับผลกำไร และบทบาทต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน แต่ก็ยินดีที่จะจ่ายเงินส่วนเกินคืนเข้าคลังตามคำสั่ง
นายหวูดึ๊กดั่ม (Vu Duc Dam) เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรีว่าการ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในคราวเดียวกันว่า เงินเดือนของผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจะต้องไม่เกิน 36 ล้านด่ง (1,705 ดอลลาร์) ต่อเดือน สามารถเพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน 50% ในกรณีที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างโดดเด่น
ตามตัวเลของกระทรวงแรงงาน ทหารผ่านศึกและสวัสดิการสังคม เงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐในเวียดนามเมื่อปี 2554 คือ 3.8 ล้านด่ง หรือ 185 ดอลลาร์
ตามระบบของเวียดนาม เงินเดือนกับค่าตอบแทนผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลนั้นเป็นค่าสัมประสิทธิ์จากภาระหน้าที่ในตำแหน่ง ค่าสูงสุดคือ 14 เริ่มตั้งแต่เลขาธิการใหญ่พรรค กับประธานาธิบดี เงินเดือนนายกรัฐมนตรีจึงลดหลั่นลงไปตามลำดับ
นายกรัฐมนตรีเวียดนามมีวาระ 5 ปี นายกฯ คนปัจจุบัน ได้รับเลือกจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2.