.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ใครจะไปคาดคิดว่าเมืองหลวงของลาวที่มีประชากรราว 7 แสนคน จะประสบปัญหาการจราจรติดขัดมากมาย แต่เศรษฐกิจที่ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 8% ตลอดหลายปีมานี้ บ่งชี้ว่าประเทศร่ำรวยขึ้น รายได้ต่อหัวประชากรสูงขึ้น และเกิดมีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ยวดยานชนิดต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ส่วนตัว ในขณะที่ระบบขนส่งมวลชนพัฒนาไม่ทัน
สำนักงานโยธาธิการและขนส่งนครเวียงจันทน์ ได้ประกาศเดินรถทางเดียวบนถนนสายสำคัญเลียบแม่น้ำโขงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และป้องกันเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอันเนื่องจากความแออัดคับคั่ง แต่จะส่งผลกระทบถึงถนนสายสำคัญอีกหลายสาย สื่อของทางการรายงาน
ถนนฟ้างุม เลียบริมฝั่งโขงจากย่านใจกลางเมืองไปเชื่อมถนนสุพานุวง (เลข 13 เหนือ) ไปยังแขวง (จังหวัด) ภาคเหนือ ช่วงยาวจากบริเวณวัดจันทน์ลงไปในเขตเมือง (อำเภอ) จันทบูลีจะเป็นวันเวย์สายใหม่ ที่ให้แล่นขึ้นได้ทิศทางเดียว และกำหนดวันคู่-วันคี่สำหรับจอดรถสองฝั่งถนน หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่รายงาน
นายเดดสงคาม ทำมะวง หัวหน้าสำนักงานการโยธาฯ กล่าวว่า ถนนฟ้างุม ที่เคยให้แล่นสวนทางกันนั้น ปัจจุบันสับสนอลหม่าน มียวดยานเข้าไปใช้มากขึ้น และในยามเย็นยังมีแม่ค้าแม่ขายตั้งร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสิ่งของเครื่องใช้และอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณท่าวัดจันทน์ ที่ได้กลายตลาดริมโขง ทำให้ไม่ปลอดภัยทั้งผู้ใช้ถนน และผู้ขับขี่
สำนักงานการโยธาฯ กับกองบัญชาการตำรวจนครหลวง ได้เห็นพ้องที่จะใช้มาตรการเดินรถทางเดียวเพื่อแก้ปัญหา หนังสือพิมพ์ของทางการนครเวียงจันทน์รายงาน
การปรับเปลี่ยนการาจราจรถนนฟ้างุม จะส่งผลกระทบต่อการสัญจรตามถนนเสดถาทิลาด ช่วงตั้งแต่สามแยกทำเนียบประธานประเทศ (ถนนล้านช้าง) ไปจนถึงสี่แยกโรงเรียนเทคนิคปากป่าสัก รวมทั้งถนนซอย และเส้นทางเชื่อมถนนเสดถาทิลาด-ถนนฟ้างุมกับอีกหลายสาย
ทางการจะเร่งจัดทำป้ายจราจรให้แล้วเสร็จ และทดลองวิ่งตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.เป็นต้นไป จนกระทั่งถึงกำหนดปฏิบัติจริงโดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยแนะนำตักเตือนในระยะแรก และจะเริ่มเคร่งครัดหลังจาก 1 เดือนผ่านไป สื่อของทางการกล่าว
ริมแม่น้ำโขงช่วงหนึ่งของถนนฟ้างุม ยังเป็นที่ตั้งสวนสาธารณะเจ้าอนุ ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในยามเย็นแห่งใหม่ของชาวเมืองหลวง และบรรดานักท่องเที่ยว มีร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดจำหน่ายสินค้าในยามค่ำคืนอีกด้วย
การจราจรในเมืองหลวงของลาวเป็นปัญหามาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน ถึงแม้ที่ผ่านมา จะมีการตัด และเพิ่มขยายถนนหลายสาย รวมทั้งสร้างถนนอ้อมเมือง ทางการได้พยายามชักชวนให้ชาวเมืองหันมาใช้รถเมล์โดยสารประจำทางแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยจัดให้มีรถเมล์บริการมากขึ้น รวมทั้งรถเมล์ปรับอากาศ ขยายเส้นทางออกนอกเมืองมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ในเดือน ม.ค.ปีนี้ เวียงจันทน์ มีรถจดทะเบียนใหม่ 6,229 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คันเทียบกับเดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ในนี้เป็นรถยนต์ส่วนตัว 635 คัน จักรยานยนต์ 3,983 คัน ที่เหลือเป็นรถบรรทุก รถตู้ รถโดยสาร และรถประเภทอื่นๆ
จนถึงสิ้นเดือนเดียวกัน เมืองหลวงของลาวมีรถจดทะเบียนทั้งสิ้น 589,567 คัน หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ-สังคม รายงานอ้างตัวเลขของกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง.
.