เอเอฟพี - หญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งแท้งบุตรเมื่อวันจันทร์ (1 ก.ค.) หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุบตีหญิงคนดังกล่าว และผู้ประท้วงที่กำลังตั้งครรภ์อยู่รายหนึ่งเช่นกัน ในระหว่างการปราบปรามการชุมนุมประท้วงเรื่องที่ดินในกรุงพนมเปญ กลุ่มสิทธิมนุษยชนท้องถิ่นระบุ
หญิงอายุ 33 ปี ที่กำลังตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์ แท้งบุตร หลังถูกทุบตีระหว่างการปราบปรามอย่างรุนแรง สมาคมสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งกัมพูชา (ADHOC) ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง
หญิงแท้งบุตรคนดังกล่าว เป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมประท้วงประมาณ 100 คน ที่เข้าปิดกั้นถนนด้านนอกอาคารสำนักงานเทศบาลในกรุงพนมเปญ นับเป็นการชุมนุมประท้วงครั้งที่ 2 ที่จบลงด้วยความรุนแรง
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะลากผู้ชุมนุมประท้วงออกจากถนน แต่บรรดาผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าทุบตี ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
“หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ถูกเตะ และถูกทุบตี” เจ้าหน้าที่จาก ADHOC กล่าวและว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ถูกทำร้ายร่างกายได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และได้รับการยืนยันจากทางโรงพยาบาลว่า หญิงดังกล่าวแท้งบุตร
คำแถลงของกลุ่ม ADHOC ระบุว่า การปราบปรามการชุมนุมครั้งนี้ละเมิดกฎหมาย และสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
ฝ่ายผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ชุมนุมประท้วงที่มาจากบริเวณทะเลสาบกรุงพนมเปญ ได้เรียกร้องเงินชดเชยเพิ่ม หรือคืนที่ดินที่รัฐบาลได้ยกให้แก่บริษัทของจีนเพื่อนำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์
เมื่อเดือน พ.ค. มีประชาชน 3 คน จากกลุ่มชุมนุมประท้วงเดียวกันนี้ล้มหมดสติ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายการประท้วงยังจุดเกิดเหตุเดียวกันนี้
ที่ดินที่เป็นของรัฐบาล และถูกมอบให้แก่บริษัทจีนจนถึงปัจจุบันยังถูกทิ้งร้างไม่ได้ใช้งาน
นักเคลื่อนไหวระบุว่า ความขัดแย้งเรื่องที่ดินเป็นประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่เร่งด่วนที่สุดของกัมพูชา และการชุมนุมประท้วงรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
การบังคับไล่ที่ในทั่วประเทศทำให้ชาวกัมพูชาหลายพันครอบครัวต้องไร้ที่อยู่อาศัย และนำมาซึ่งการชุมนุมประท้วง และการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย.