เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ในรัฐยะไข่ของพม่า ระบุวานนี้ (26) ย้ำจุดยืนว่า ห้ามชาวมุสลิมโรฮิงญามีบุตรมากกว่า 2 คน ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านของพม่า และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนออกมาคัดค้านนโยบายที่ไร้มนุษยธรรมดังกล่าว
นายวิน มาย โฆษกรัฐบาลรัฐยะไข่ ระบุว่า นโยบายในสมัยรัฐบาลเผด็จการทหารที่ถูกนักเคลื่อนไหวระบุว่า เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจนี้ถูกยืนยันใน 2 เมือง จากความไม่สงบทางศาสนาที่ปะทุขึ้นเมื่อปีก่อน
“เพราะอัตราการเกิดมีสูงมากในพื้นที่ คำสั่งในพื้นที่อำเภอถูกกำหนดขึ้นเมื่อนานมาแล้วเพื่อบังคับให้มีคู่สมรสเพียงคนเดียว และไม่ให้มีบุตรมากกว่า 2 คน ซึ่งได้รับการอนุมัติอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา” โฆษกรัฐยะไข่ระบุ และให้ข้อมูลว่า นโยบายนี้ถูกระงับไว้เนื่องจากเกรงความขัดแย้งในหมู่ชุมชนต่างๆ ในรัฐ
วิน มาย กล่าวว่า ทางการในอำเภอที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมกำลังพยายามที่จะดำเนินการใช้นโยบายบุตร 2 คน เพราะคณะกรรมการสอบสวนได้แนะนำการควบคุมการเกิด
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้ว่า พยายามที่จะจำกัดการเกิดในหมู่ชาวโรฮิงญา โดยการปฏิเสธที่จะรับรองบุตรที่เกินกว่า 2 คนต่อคู่สมรส บุคคลเหล่านี้จะถูกปฏิเสธสิทธิทางกฎหมาย และการเข้าถึงบริการ
นางอองซานซูจี ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการห้ามชาวโรฮิงญามีบุตรมากกว่า 2 คน ว่า เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับสิทธิมนุษยชน โดยผู้นำฝ่ายค้านของพม่าที่เคยถูกบรรดานักเคลื่อนไหวกล่าวหาว่าล้มเหลวที่จะพูดถึงชาวโรฮิงญา ได้ระบุคัดค้านต่อกฎระเบียบดังกล่าวที่กำหนดขึ้นโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร และยังถูกยืนยันซ้ำโดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
“ไม่ใช่เรื่องดีที่จะมีการแบ่งแยกเลือกปฏิบัติเช่นนี้ และนี่ก็ไม่ใช่แนวทางของสิทธิมนุษยชนเช่นกัน” ซูจีกล่าวกับผู้สื่อข่าวในนครย่างกุ้ง
ฮิวแมน ไรท์ วอช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของชาวพุทธยะไข่ คาดว่าจะใช้รายงานอย่างเป็นทางการสร้างความน่าเชื่อถือต่อนโยบายที่ถูกมองว่าน่ารังเกียจ ไร้มนุษยธรรม และขัดต่อสิทธิมนุษยชน
ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอช ประจำภูมิภาคเอเชียกล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นพยายามที่จะใช้ข้อเสนอแนะจากรายงานการสืบสวนเหตุความไม่สงบในรัฐยะไข่ สนับสนุนนโยบายจำกัดการเกิดของชาวโรฮิงญา
พม่ามองว่า ชาวโรฮิงญาเกือบ 800,000 คน ในประเทศเป็นผู้อพยพชาวบังกลาเทศผิดกฎหมาย และปฏิเสธที่จะให้สถานะพลเมือง.