.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สตรีหมายเลข 1 ล๊กจุมเตียวกิตติวุฒิบัณฑิตบุนรานีฮุนเซน (First lady, Lok Chumteav Kittiprittbindit Bun Rany Hun Sen) นายิกาสภากาชาดกัมพูชาได้บรรดาศักดิ์เป็น “สมเด็จ” อีกรายหนึ่งของประเทศในวันพุธ 8 พ.ค.นี้ อันเป็นบรรดาศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานจากพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี องค์พระประมุข
สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เป็นผู้มอบบรรดาศักดิ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการระหว่างพิธีฉลองครบรอบปีที่ 150 กาชาดโลก ในเช้าวันเดียวกัน
พระบรมนาถนโรดมสีหมุนี ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ชั้น “สมเด็จ” แก่สตรีหมายเลข 1 สำหรับ “ความพยายามอันไม่รู้เหน็ดเหนื่อยในการปฏิบัติภารกิจเพื่อมนุษยธรรม” สำนักข่าวกัมพูชารายงาน
“เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากที่ลูกหลานชาวนา 2 คนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ชั้นสมเด็จจากพระเจ้าอยู่หัว” สมเด็จเตโชฮุนเซนซึ่งเป็นสามีกล่าว
หลายปีมานี้ ท่านผู้หญิงบุนรานี ได้เป็นผู้นำหน้าในงานสังคมสังเคราะห์ นำสิ่งของเครื่องยังชีพ ตลอดจนเงินสดไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ แม้จะถูกฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า ไม่ชายตามองคนยากจนในกรุงพนมเปญ ที่ถูกนักลงทุนใช้ตำรวจทหารเข้าขับไล่ออกจากที่ดินที่เคยใช้เป็นแหล่งอาศัย และทำกินมานานนับชั่วคน เพื่อนำไปก่อสร้างโครงการต่างๆ
สัปดาห์ปลายเดือนที่แล้ว ชาวเขมรที่ถูกขับไล่ออกจากบริเวณบึงกอก ได้ไปรวมตัวกันบนท้องถนนสายหลักของเมืองหลวง พยายามเดินทางมุ่งหน้าสู่บริเวณอนุสาวรีย์วิมานเอกราช ที่ตั้งคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านพักส่วนของของครอบครัวผู้นำ เพื่อร้องเรียนที่ได้รับเงินชดเชยอย่างไม่เป็นธรรม แต่ราษฎรเหล่านั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขัดขวางเกิดการปะทะ และได้รับบาดเจ็บไปหลายคน
.
.
ปัญหาแบบเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นกับชุมชุนบุรีกีฬาในเมืองหลวง ซึ่งถูกไล่ที่ และไม่ได้รับเงินชดเชยอย่างยุติธรรม การชุมนุมเรียกร้องเกือบจะทุกครั้ง มักจะได้กลายเป็นความรุนแรงจากน้ำมือของเจ้าหน้าที่รัฐ
การรุกไล่ราษฎรออกจากที่ดินทำกินเพื่อยึดที่ดินไปใช้ประโยชน์ด้านการพัฒนา เป็นปัญหาใหญ่ในกัมพูชาตลอดช่วงหลายปีมานี้ และยังคงเกิดขึ้นในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนหลายแห่งได้กล่าวประณามกระทำการเช่นนี้ และเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปดูแลให้เกิดความเป็นธรรม
“ท่านผู้หญิงใหญ่” (ล๊กจุมเตียวธม) ตามที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกขานเพื่อมิให้ซ้ำกับ “ท่านผู้หญิง” คนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ได้รับพระราชทานตำแหน่ง “กิตติวุฒิบัณฑิต”เมื่อปี 2554 ซึ่งเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติสูงสุดทางด้านวิชาการของราชบัณฑิตสภากัมพูชา ซึ่งก็คือตำแหน่ง “ดุษฎีบัณฑิตอาวุโสสูงสุด” (Most Senior Doctor) ของประเทศ
ก่อนหน้านั้น เคยได้รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่ง ทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งจากสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 3 แห่ง ในสาธารณรัฐเกาหลี เมื่อปี 2552 และ 2553 ด้วย.