เอเอฟพี - ประธานาธิบดีพม่าวานนี้ ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ ในความไม่สงบทางศาสนาที่แพร่ไปทั่วประเทศ
คำกล่าวปราศรัยต่อประชาชนของเต็งเส่ง มีขึ้นหลังรายงานของทางการเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อนระบุว่า เหตุรุนแรงในรัฐยะไข่เมื่อปี 2555 มีผู้เสียชีวิตราว 200 คน โดยเต็งเส่งกล่าวว่า ประเทศควรมุ่งมั่นเพื่อความสงบสุข
“เกี่ยวกับรัฐยะไข่ รัฐบาลของเราจะรับผิดชอบสนับสนุนสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวมุสลิม ขณะที่ชาติพันธุ์ยะไข่ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธก็จะไม่ถูกทอดทิ้งเช่นกัน” เต็งเส่ง กล่าว
รัฐยะไข่ยังคงแตกแยกหลังเกิดเหตุไม่สงบปะทุขึ้นในเดือน มิ.ย. และ ต.ค. ที่กลุ่มม็อบเข้าบุกโจมตีในหลายหมู่บ้าน และวางเพลิงเผาทำลายบ้านเรือนหลายพันหลัง ทำให้ประชาชนราว 140,000 คน ต้องไร้ที่อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญา
คลื่นความไม่สงบต่อต้านมุสลิมได้แผ่กระจายไปทั่วประเทศในปีนี้ บางเหตุการณ์มีพระสงฆ์เข้าร่วม ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกกล่าวหาว่า เพิกเฉยไม่เข้าระงับเหตุเมื่อสุเหร่า และบ้านเรือนประชาชนถูกโจมตี
เต็งเส่งกล่าวยอมรับว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพราะนโยบายที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้อธิบายว่ามาตรการที่อ้างถึง อย่างไรก็ตาม เต็งเส่ง ยังได้ให้คำมั่นว่าจะใช้อำนาจของตัวเองทำให้แน่ใจว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยจะดำเนินมาตรการอย่างเต็มที่เพื่อฟื้นฟูสันติภาพ และกฎหมาย
การโจมตีชาวมุสลิมที่คิดเป็น 4% ของประชากรทั้งหมดของพม่า สร้างความแตกแยกและยังเป็นเงาบดบังการปฏิรูปภายใต้รัฐบาลกึ่งพลเรือนที่ขึ้นบริหารเมื่อ 2 ปีก่อน
ประชาชนอย่างน้อย 43 คน ถูกฆ่า และอีกหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ในเหตุจลาจลเมื่อเดือน มี.ค. ที่ปะทุขึ้นจากเหตุวิวาทในร้านทองที่เมืองเม็กทิลา ทางภาคกลางของประเทศ
เหตุไม่สงบต่อต้านชาวมุสลิมครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน สุเหร่า และบ้านเรือนประชาชนถูกทำลายในเมืองโอ๊กกัน ห่างจากนนครย่างกุ้งไปทางเหนือราว 100 กม. แพร่ลามเข้าใกล้เมืองสำคัญของประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ.