แรงงานเขมรครึ่งหมื่นเดินขบวนเรียกร้องปรับค่าแรงในวันแรงงานสากล

ซินหัว - แรงงานชาวกัมพูชาราว 5,000 คน เดินขบวนไปตามถนนเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) เพื่อเฉลิมฉลองวันแรงงานสากล และเรียกร้องการปรับเพิ่มค่าแรง สภาพความเป็นอยู่ของแรงงานที่ดีขึ้น และการปรับลดราคาน้ำมัน ตัวแทนจากสหภาพแรงงานกัมพูชา ระบุ

บรรดาผู้เดินขบวนที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากโรงงานสิ่งทอ ถือแผ่นป้ายเดินขบวนจากสวนสันติภาพที่อยู่ใกล้กับวัดพนม มุ่งไปยังรัฐสภาเพื่อยื่นคำร้องต่อสภา

“คำร้องของพวกเขาคือ เรียกร้องให้รัฐบาลปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ 150 ดอลลาร์ต่อเดือนให้แก่แรงงานสิ่งทอ และออกมาตรการที่จะเป็นการรับประกันความปลอดภัยในการทำงานของแรงงาน” นายรอง ชุน ประธานสมาพันธ์สหภาพกัมพูชา ที่เป็นผู้นำในการชุมนุม กล่าวกับนักข่าว

ในปัจจุบัน ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานสิ่งทออยู่ที่ 80 ดอลลาร์

“เรายังเรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดราคาน้ำมันเบนซินลงเหลือต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ต่อ 1 ลิตร จากที่ในเวลานี้อยู่ที่ 1.37 ดอลลาร์” นายรอง ชุน กล่าว

ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นภาคส่วนที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศมากที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนของการส่งออกของประเทศถึง 80% และรายงานล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาระบุว่า ปัจจุบัน กัมพูชามีโรงงานรองเท้า และสิ่งทออยู่ประมาณ 500 แห่ง จ้างแรงงานราว 510,600 คน โดยในปีที่ผ่านมา กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้าสิ่งทอคิดเป็นมูลค่า 4,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบปีต่อปี

นายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวว่า รัฐบาลอนุญาตให้แรงงานแสดงสิทธิของตัวเองผ่านการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“นี่คือเสรีภาพของพวกเขา” นายกฯฮุนเซน กล่าวในระหว่างการเฉลิมฉลองวันแรงงานสากล พร้อมกับแรงงาน 1,300 คน ที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ ในวันพุธ (1 พ.ค.)

“แรงงานบางส่วนจัดการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องค่าแรง และสภาพการทำงานที่ดีขึ้น และบางส่วนมีความสุขกับวันหยุดด้วยการกลับไปเยี่ยมครอบครัว หรือจัดงานสังสรรค์” ฮุนเซน กล่าว

ผู้นำกัมพูชาระบุว่า อัตราค่าจ้างต่อเดือนของแรงงานมากกว่า 50 ดอลลาร์ ในปี 2551 และปรับเพิ่มเป็น 61 ดอลลาร์ ในปี 2553 และตั้งแต่เดือน พ.ค.2556 ก็ปรับเพิ่มเป็น 80 ดอลลาร์.