.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการเวียดนามได้ยื่นข้อเสนอดีๆ มากมายให้แก่เยาวชนที่มีศักยภาพ เพื่อดึงดูดให้เข้าศึกษาแขนงวิชาพลังงานนิวเคลียร์ในสถาบันการศึกษาชั้นสูงทั้งใน และต่างประเทศ โดยไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นอีกความพยายามหนึ่งในการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
และเวียดนามกำลังจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทั้งหมดถึง 8 โรง ในระยะ 20-30 ปีข้างหน้า ซึ่งจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งช่างเทคนิคในแขนงนี้จำนวนนับหมื่นคน สื่อของทางการรายงาน
นักเรียนที่สามารถสอบเข้าศึกษาในแขนงวิชาพลังงานนิวเคลียร์ หรือแขนงบที่เกี่ยวข้องได้ จะไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนใดๆ ตลอดเวลา 5-7 ปี และจะได้อยู่หอพักที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างเพียงพอ ซึ่งทุนการศึกษาเพื่อการนี้คิดเป็นเงินสูงกว่าทุนการศึกษาทั่วไปถึง 15 เท่าตัว
นอกจากนั้น นักศึกษาชั้นปีสุดท้ายที่ได้คะแนนดี ยังจะถูกส่งไปศึกษาต่อในต่างประเทศโดยไม่ต้องต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย โดยมีปลายทางใหญ่คือ รัสเซีย และญี่ปุ่น นายหลีเตียนหุ่ง (Ly Tien Hung) รองผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมกล่าว
สำหรับนักศึกษาที่ไปศึกษาต่อในรัสเซีย ยังจะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงเพิ่มอีกเดือนละ 200 ดอลลาร์ ซึ่งจะมีการปรับให้ตามอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปีอีกด้วย แต่ทั้งนี้จะต้องทำสัญญาเมื่อเรียนจบแล้วจะไปทำงานที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกที่ จ.นีงทวน (Ninh Tuan) ชายฝั่งทะเลจีนใต้ในภาคกลางของประเทศ
บริษัทรอสอะตอม (Rosatom) จากรัสเซียซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีชื่อเสียง ก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มานับร้อยแห่งทั้งในรัสเซีย และในต่างประเทศ กำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้า จ.นีงทวน ให้เวียดนาม ซึ่งประกอบด้วย เตาปฏิกรณ์ 2 หน่วย กำลังผลิตหน่วยละ 1,000 เมกะวัตต์ และมีกำหนดเดินเครื่องในปี 2563-2564
.
.
ในปี 2554 เวียดนามยังเซ็นสัญญากับรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 2 ซึ่งจะประกอบด้วย เตาปฏิกรณ์กับเครื่องปั่นไฟอีก 2 หน่วย เช่นกันสองฝ่ายจะต้องหารือกันในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเร็วๆ นี้ สื่อของทางการกล่าว
ตามแผนแม่บทในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าเพื่อสนองการพัฒนาประเทศในระยะยาว หลังปี 2563 เวียดนามจะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มที่ จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ฝูเอียน (Phu Yen) และ จ.บี่งดีง (Binh Dinh) ในภาคกลาง และที่ จ.ห่าตี๋ง (Ha Tinh) ทางภาคกลางตอนบน
ดร.บุ่ยดึ๊กเฮียน (Bui Duc Hien) แห่งมหาวิทยาลัยพลังงานไฟฟ้า (Electric Power University) ในกรุงฮานอย กล่าวระหว่างการประชุมสัมมนาที่จัดขึ้นในเขตที่ราบสูงภาคกลางปลายสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า เวียดนามจะขาดแคลนบุคลากรอย่างมากสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กำลังก่อสร้าง เนื่องจากการฝึกอบรมเป็นไปอย่างล่าช้า
เวียดนามจะต้องมีบุคลากรด้านนี้อย่างน้อยที่สุด 4,000 คน ภายในปี 2563 และโรงงานไฟฟ้า จ.นีงทวน จะต้องมีวิศวกรนิวเคลียร์อย่างน้อย 1,600 คน เพื่อดูแล และอำนวยการเตาปฏิกรณ์กับโรงไฟฟ้าทั้งสองหน่วย
ในปี 2553 รัฐบาลเวียดนามได้มอบหมายให้สถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ จำนวน 6 แห่ง ทำหน้าที่ผลิตบัณฑิต กับมหาบัณฑิตแขนงพลังงานปรมาณู ซึ่งคาดว่าในระยะเวลา 7 ปี จะผลิตออกมาได้ราว 2,000 คน หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม.