ไฟแนนเชียลไทม์ส - พม่าจะกลับมาส่งออกข้าวให้แก่ญี่ปุ่นอีกครั้งหลังระงับไปนาน 45 ปี ที่จะกลายเป็นเครื่องหมายสำคัญในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างพม่าและญี่ปุ่น
มิตซุย บริษัทการค้าที่เป็นผู้ควบคุมการจัดส่งข้าวครั้งแรกระหว่าง 2 ประเทศนับตั้งแต่ปี 2511 ระบุว่า การขนส่งข้าวจำนวน 5,000 ตัน จะมีขึ้นในเดือน พ.ค. นี้ โดยจะขนส่งออกจากท่าเรือนครย่างกุ้ง ไปยังเมืองนาโกยา ของญี่ปุ่น โดยคำสั่งซื้อข้าวครั้งนี้เป็นของกระทรวงเกษตรญี่ปุ่นที่อาจขายข้าวให้แก่ผู้ผลิตสินค้าในท้องถิ่น เช่นเบียร์ ขนมปังกรอบ เป็นต้น
ข้อตกลงซื้อขายข้าวครั้งนี้ เป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างญี่ปุ่นและพม่า นับตั้งแต่รัฐบาลของประธานาธิบดีเต็งเส่งขึ้นบริหารประเทศเมื่อ 2 ปีก่อน และผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย หลังอยู่ภายใต้การปกครองของทหารหลายทศวรรษ
หลังจากญี่ปุ่นยกเลิกหนี้ค้างชำระ จำนวน 3,200 ล้านดอลลาร์ ให้แก่พม่าในเดือน มี.ค. ปีก่อน ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วรายแรกที่จัดการกับหนี้ค้างชำระของพม่า เพื่อเปิดทางให้บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นกลับมาดำเนินกิจการในพม่าได้อีกครั้ง
ภาคการเกษตรของพม่า ถูกมองว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ แต่การผลิตยังมีอุปสรรคหลายประการ เช่น การขาดแคลนปุ๋ย ระบบชลประทานที่ย่ำแย่ และเครือข่ายการขายสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ
มิตซุย เป็นบริษัทค้าขายรายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น หากวัดจากผลประกอบการ ได้เริ่มซื้อข้าวเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาจากบริษัทเอกชนที่ตั้งขึ้นใหม่ คือบริษัท Myanmar Agribusiness Public Corporation (Mapco) และในเป้าหมายที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นกับบริษัท Mapco บริษัทมิตซุยยังวางแผนที่จะสร้างโรงสีข้าว 3 แห่ง ที่สามารถรองรับข้าวได้ 300,000 ตันต่อปี ด้วยมูลค่าลงทุนประมาณ 15,000 ล้านเยน
การส่งออกข้าวทั้งหมดของพม่าเมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 600,000 ตัน ตามการรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ทำให้พม่าเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ของโลก และภายใน 5 ปี รัฐบาลพม่าหวังที่จะเพิ่มปริมาณส่งออกข้าวให้ได้ 5 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้พม่าเป็นรองเวียดนาม (7.4) อินเดีย (7.6) และไทย (8)
พม่าเคยเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับต้นของโลกเมื่อครั้งยังอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ เคยส่งออกข้าวมากถึง 3.4 ล้านตัน ในปี 2477 แต่ภาคส่วนนี้ต้องสูญเสียทิศทางไปในช่วงการปกครองของรัฐบาลทหารที่ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ที่เพิ่งสิ้นสุดลงในปี 2554.