.
ย่างกุ้ง - 27 มี.ค.2556 (รอยเตอร์) - ฝ่ายทหารจะยังคงบทบาทสำคัญในระบอบประชาธิปไตยที่ยังไม่มั่นคงของประเทศ ผู้บัญชาการกองทัพพม่ากล่าวระหว่างพิธีเดินสวนสนามเนื่องในวันกองทัพวันพุธนี้ ซึ่งนางอองซานซูจีผู้นำฝ่ายค้าน และนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเข้าร่วมเป็นครั้งแรก
พล.อ.อาวุโสมินอองหล่าย (Min Aung Hlaing) กล่าวถึงเรื่องนี้ ในขณะที่ทหารได้เข้ารักษาสันติภาพอันไม่คงเส้นคงวาทางตอนกลางของพม่า ซึ่งทางการได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขต 4 ตัวเมืองสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อปราบปรามการจลาจลต่อต้านชาวมุสลิม ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้ถูกสังหารไป 40 ราย
การปะทะกันระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมกำลังขยายวงออกไป สร้างความท้าทายให้แก่รัฐบาลปฏิรูป ที่เข้าบริหารประเทศในปี 2554 หลังจากฝ่ายทหารปกครองมาเกือบครึ่งศตวรรษ
พล.อ.อาวุโสอองมินหล่าย กล่าวว่า ฝ่ายทหารจะยังดำเนิน “บทบาทนำทางการเมือง” ต่อไป ตามรัฐธรรมนูญของพม่า ที่จัดร่างขึ้นโดยอดีตคณะปกครองทหารซึ่งในปัจจุบันสงวนที่นั่งในรัฐสภาเอาไว้ให้บรรดานายทหารถึง 1 ใน 4
ในตอนเช้าวันพุธ ฝูงชนในเมืองนัทลิน (Nattalin) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 210 กิโลเมตร ได้พยายามบุกทำลายบ้านเรือน 3 หลัง กับสุเหร่าอีก 1 แห่ง แต่ถูกทหารเข้าสกัดไว้ เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นกล่าวกับรอยเตอร์
“เท่าที่ผมทราบไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และไม่มีอะไรถูกเผาทำลาย” เจ้าหน้าที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในเมืองที่ทางการได้ประกาศห้ามออกนอกบ้านในเวลากลางคืน พร้อมกับอีก 5 เมืองที่อยู่ใกล้กัน
ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ได้รับการแซ่ซ้องจากการปล่อยนักโทษที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ผ่อนคลายการเซ็นเซอร์สื่อ และกำลังพยายามแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นระบบระเบียบ
แต่รัฐบาลก็ได้รับการวิจารณ์ต่อความล้มเหลวในการหยุดยั้งการจลาจลในรัฐระไคทางภาคตะวันตกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทางการกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 110 คน และ 120,000 คน ตกอยู่ในสภาพไร้ที่อาศัย ส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญามุสลิม
ในการปราศรัยระหว่างการสวนสนามฉลองวันกองทัพในเมืองเนปีดอ พล.อ.อองหล่ายได้กล่าวถึงความจงรักภักดีของฝ่ายทหารที่มีต่อประธานาธิบดีเต็งเส่ง ซึ่งเป็นอดีตผู้นำระดับสูงในคณะปกครองทหารคนหนึ่ง ก่อนจะชมแถวขบวนทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งจรวดที่บรรทุกบนรถ
กองทัพได้เข้าช่วยเหลือในการสร้าง “ประเทศที่กำลังพัฒนาให้มีสันติภาพอันยั่งยืน” พล.อ.อองหล่ายกล่าว
องค์การสิทธิมนุษยชนได้กล่าวหาฝ่ายทหารพม่าว่า ได้ก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมวลมนุษย์ ในการต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายบกบฏชนชาติส่วนน้อยเช่น กะฉิ่น และชาน
แต่ พล.อ.อองหล่ายกล่าวว่า “สมาชิกของเราทุกคนถูกฝึกให้ปฏิบัติสอดคล้องกับข้อตกลงนครเจนีวา พวกเราทัตมาดอ (กองทัพ) จะไม่ก่ออาชญากรรมสงคราม”
“ไม่เคยมีเรื่องดังกล่าวในประวัติศาสตร์ของกองทัพ”.
.
2
3
4
5
| อั้นมานานขออวดหน่อย |
วันกองทัพปีนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ พม่านำเขี้ยวเล็บที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนหลายรายการออกอวดเพื่อนบ้าน พิเศษสุดคือ จรวดนำวิถี S-125 “เนวา” ซึ่งเป็นยุคใหม่ของ “แซม-2/3/6” หรือในตระกูล S-75 “ดาวินา/เปชอร่า” (Davina/Pechora) แบบเดียวกับที่เวียดนามเคยใช้ยิงบี-52 ของสหรัฐฯ ร่วงถึง 34 ลำ ในยุทธการป้องกันกรุงฮานอยปลายปี 2515 ตามข้อมูลในเว็บไซต์ข่าวกลาโหม พม่ามี “แซม” หลายร้อยลูก ยังมีรุ่นประทับไหล่ยิงตระกูล “อิกลา” (Igla) คือ SAM-16/15 รวมกันอีก 600 ลูก จรวด “หงอวิง” (Hong Ying) HN-5 จากจีนอีก 200 ลูก การสะสมจรวดต่อสู้อากาศยานมากมายสะท้อนให้เห็นความหวาดกลัวของคณะปกครองทหารเมื่อสัก 10 ปีก่อนที่เกรงว่าสหรัฐฯ อาจจะเข้าโจมตี อันเป็นสาเหตุหนึ่งให้ต้องย้ายเมืองหลวงไปจากกรุงย่างกุ้ง พม่ายังมีขีปนาวุธ “หวาซอง-6” (Hwasong-6) ของเกาหลีเหนือที่มีระยะยิง 700 กม. ยิงทำลายเรือรบข้าศึกในทะเลได้ ครั้งนี้กองทัพอากาศยังนำเอาเฮลิคอปเตอร์ตระกูล “ฮิป” (Hip) Mi-8/17 ซึ่งเป็น ฮ.ลำเลียงติดปืนกลกับตระกูล “ฮายด์” (Hind) Mi-24/35 ฮ.โจมตีออกโชว์ พม่ามี ฮ.รัสเซียรวมกันเกือบ 100 ลำ กำลังรอส่งมอบ Mi-35 ล็อตใหญ่ 50 ลำที่เซ็นซื้อในปี 2553 นอกจากนั้น ยังนำเครื่องบินฝึกแบบ K-8 “หงตู” (Hingdu) ขึ้นบินโชว์ แต่ที่ไม่ได้ปรากฏตัวก็คือ มิก-29 ที่มีอยู่ 30 ลำ ทั้งเครื่องบินรบ และ บ.ฝึก กองทัพอากาศ และกองทัพบกพม่ามีอากาศยานชนิดต่างๆ รวมกันเป็นจำนวนกว่า 100 ลำ และกำลังจะจัดซื้อเครื่องบินรบอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากงบประมาณกลาโหมผ่านรัฐสภาเมื่อต้นเดือนนี้ ส่วนกองทัพบกโชว์เขี้ยวเล็บใหม่คือ ยานโจมตีติดปืนใหญ่ (อัตตาจร) ที่ซื้อจากอิสราเอลเมื่อไม่ปีมานี้ งานสวนสนามปีนี้ทหารบางหน่วยยังถือปืนกลกึ่งอัตโนมัติแบบ “บุลพับ” (Bull Pub) คือ ชุดยิงอยู่ด้านหน้าแมกกาซีนกับรังเพลิง ที่ผลิตในจีนอีกด้วย.. |
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
