xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มทุนเวียดนามเปิดโรงงานยางพาราในลาว ตั้งเป้าโกยปีละ $300 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <bR><FONT color=#000033>รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายเหวียนซวนฟุก (Nguyen Xuan Phuc) ซึ่งเป็นสมาชิกกรมการเมืองคนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์ (ขวามือ) แสดงความยินดีกับนายดว่าน-งเวียน-ดึ๊ก (Doan Nguyen Duc) ประธานหว่างแองซาลาย (Hoang Anh Gia Lai) จากเวียดนามในโอกาสทำพิธีเปิดโรงงานในแขวงอัตตะปือของลาววันจันทร์ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา คาดว่าโรงงานแห่งนี้จะผลิตยางพาราได้ปีละกว่า 100,000 ตันเมื่อต้นยางในลาวให้น้ำยางได้เต็มที่. -- GDVN Online. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มหว่างแองซาลาย (Hoang Anh Gia Lai) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ ได้เปิดโรงงานผลิตยางพาราในแขวงอัตตะปือของลาวอย่างเป็นทางการวันจันทร์ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา และ นายดว่าน-งเวียน-ดึ๊ก (Doan Nguyen Duc) ประธานกลุ่มกล่าวว่า ธุรกิจยางพาราในประเทศเพื่อนบ้านแหงนี้คาดจะทำรายได้ถึงปีละ 300 ล้านดอลลาร์ สร้างงานถาวรให้แก่ราษฎรชาวในท้องถิ่นราว 15,000 คน

การก่อสร้างโรงงานยางพารามูลค่า 9 ล้านดอลลาร์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ผลิตยางสำเร็จรูปได้ 25,000 ตันต่อปีในปีแรกๆ และทั้งหมดใช้เทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด ซึ่งยังไม่มีใช้ในโรงงานยางพาราทั้งในประเทศไทย และในมาเลเซีย แต่การก่อสร้างโรงงานควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านยางพาราทั้งจากไทย และมาเลเซีย นายดึ๊กกล่าวโดยไม่ได้อธิบาย

“เมื่อทั้งอาณาบริเวณสวนยางให้ผลผลิตเต็มที่คาดว่าจะผลิตยางเพิ่มขึ้นเป็นถึง 100,000 ตันต่อปี ทำรายได้ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี” ประธานกลุ่มทุนใหญ่กล่าว

ลูกค้าสำคัญของ HGAL เป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ซึ่งรวมทั้งมิชลิน (Michelin) ดันล็อป (Dunlop) และยางบริดจสโตน (Bridgestone) จากประเทศญี่ปุ่น

บริษัทเหล่านี้ส่งตัวแทนเข้าเวียดนามหลายครั้งเพื่อดูงาน และทำความร่วมมือด้านธุรกิจกับ HAGL โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิชลินได้ส่งผู้แทนไปดูการก่อสร้างโรงงานในลาวทุกขั้นตอน และให้คำแนะนำเกี่ยวกับคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ นายดึ๊กกล่าว

ประธานหว่างแองซาลายซึ่งเป็นเอกชนคนแรกที่มีเครื่องบินส่วนตัว กล่าวว่า จนถึงสิ้นปี 2555 บริษัทได้ปลูกยางเป็นเนื้อที่รวมประมาณ 44,000 เฮกตาร์ หรือกว่า 246,000 ไร่ ใน 3 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา และในเวียดนาม แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีกเกี่ยวกับพื้นที่สวนยางทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายใต้สัญญาเช่าเป็นเวลาหลายสิบปี รวมทั้งในแขวงภาคใต้ของลาวด้วย

กลุ่ม HAGL เข้าสำรวจลู่ทางการลงทุนเกษตรอุตสาหกรรมในภาคใต้ของลาวตั้งแต่ปี 2548 และเริ่มปลูกต้นกล้ายางปี 2550

ปัจจุบัน ยางพาราส่วนใหญ่เริ่มให้น้ำยางแล้ว เนื่องจากสภาพดิน และเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์อื่นๆ ดีมาก ซึ่งตามปกติทั่วไป ต้นยางอาจจะต้องใช้เวลา 6-7 ปี กว่าจะให้น้ำยางได้เต็มที่ สำนักข่าวเกี่ยวดึ๊กเหวียดนาม หรือ “ข่าวการศึกษาเวียดนาม” รายงานเรื่องจากแขวงอัตตะปือของลาว

ในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ จีนได้กลายเป็นตลาดยางพาราใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติยังถูกนำไปใช้แทนผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมในอีกหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงปีที่น้ำมันดิบในตลาดโลกราคาพุ่งขึ้นสูง การนำเข้ายางก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงา

อย่างไรก็ตาม ประธาน HAGL ไม่ได้พูดถึงแผนการตลาด หรือการส่งออกใดๆ นอกเหนือจากความร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ดังกล่าว.
.
<bR ><FONT color=#000033>นายเหวียนซวนฟุก (Nguyen Xuan Phuc) รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามกับนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีลาว เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโรงงานผลิตยางพาราแห่งแรกในลาววันจันทร์ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ในแขวงอัตตะปือ กลุ่มทุนใหญ่จากเวียดนามกล่าวว่า กิจการสวนยางและโรงงานแห่งนี้สร้างงานให้แก่ชาวลาวอย่างถาวรถึง 15,000 คน. -- ภาพ: GDVN Online. <b>
กำลังโหลดความคิดเห็น