เอเอฟพี - ผู้บริจาครายใหญ่ออกโรงเตือนว่า เวียดนามเสี่ยงที่จะประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน ยกเว้นแต่รัฐบาลสามารถปฏิรูปภาคธนาคารที่ประสบปัญหาหนี้ และยกเครื่องรัฐวิสาหกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ
เวียดนามที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการขนานนามว่าเป็นเสือเศรษฐกิจเอเชียอยู่ในช่วงที่การเติบโตมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากปัญหาภาวะเงินเฟ้อ การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติลดลง และความกลัวที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับหนี้เสีย
“เศรษฐกิจกำลังสูญเสียพลวัตไปอย่างมาก และข้อจำกัดทางโครงสร้างกำลังกลายเป็นการผูกมัดมากขึ้น ฉุดการแข่งขัน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ” วิคตอเรีย กวากวา ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมผู้บริจาคประจำปี
“เวียดนามเสี่ยงที่จะตกเข้าไปอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง” นางกวากวา ระบุ โดยอ้างถึงศักยภาพในการแข่งขันที่ลดลงของประเทศ
รัฐบาลเวียดนามคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจประเทศจะขยายตัวที่ 5.2% ในปี 2555 ที่นับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 13 ปี
ในที่ประชุมในกรุงฮานอยวานนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมด้วยนั้น ผู้บริจาคประเทศต่างๆ ได้ให้คำมั่นที่จะมอบทุน จำนวน 6,500 ล้านดอลลาร์ให้แก่การพัฒนาของเวียดนามในช่วงปี 2556 ซึ่งทุนจำนวนดังกล่าวลดลงจากที่เสนอให้เมื่อปีก่อนจำนวน 7,300 ล้านดอลลาร์ และผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในปี 2556 คือ ญี่ปุ่น โดยมอบให้ทั้งสิ้น 2,600 ล้านดอลลาร์ และสหภาพยุโรปที่ 963 ล้านดอลลาร์
ผู้บริจาคได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อกู้ยืมด้อยคุณภาพ การปรับปรุงการกำกับดูแลกิจการในสถานประกอบการของรัฐ และธนาคาร และยกระดับความโปร่งใส และการเปิดเผยในภาครัฐ.