เอเอฟพี - เวียดนามผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งนายกรัฐมนตรี จะต้องชนะเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาในการลงมติประจำปีที่จะมีขึ้นเป็นครั้งแรก สื่อทางการของเวียดนามรายงานวันนี้ (22 พ.ย.)
ตั้งแต่ปี 2556 เจ้าหน้าที่ระดับสูงตั้งแต่ประธานาธิบดีไปจนถึงผู้พิพากษาศาลสูงสุด จะต้องเผชิญกับการลงมติไว้วางใจประจำปีในการประชุมสภา สำนักข่าวเวียดนามนิวส์ รายงาน
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจน้อยกว่า 50% ติดต่อกัน 2 ปี จะถูกขอให้ก้าวลงจากตำแหน่ง และผลการลงคะแนนจะเผยแพร่ต่อสาธารณะ
แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การลงมติไว้วางใจไม่น่าจะเป็นไปมากกว่าสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าอำนาจในการตัดสินใจ และการเมืองที่แท้จริงอยู่ที่พรรคคอมมิวนิสต์
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง เผชิญกับเสียงเรียกร้องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากสมาชิกรัฐสภาให้ลาออก ซึ่งนายกฯ ยวุ๋งกล่าวกับสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาจะยังอยู่ในตำแหน่งตามเท่าที่พรรคคอมมิวนิสต์ต้องการ
อดีตผู้ว่าการธนาคารกลาง วัย 62 ปี รอดพ้นจากการลงโทษในที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งสำคัญเมื่อเดือนก่อนเกี่ยวกับเหตุอื้อฉาวที่สร้างมลทินให้แก่ผู้นำประเทศ
และในความพยายามที่จะหันเหความสนใจของบรรดาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มขึ้น พรรคคอมมิวนิสต์ได้เผยแพร่ “การวิจารณ์ตัวเอง” และยวุ๋งได้แสดงความเสียใจต่อการทุจริต การไร้ประสิทธิภาพ และการสูญเสียครั้งใหญ่ของรัฐวิสาหกิจที่รัฐดำเนินการ เช่น บริษัทเดินเรือวีนาชิน
แรงกดดันเพิ่มสูงขึ้นขณะที่เวียดนามเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ภาวะเงินเฟ้อสูง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศลดลง และความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับหนี้เสียในระบบธนาคารที่เปราะบาง
ยวุ๋ง ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ถูกกล่าวขานว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ.