เอเจนซีส์ - ศาลสูงสุดเวเนซุเอลาตัดสินด้วยเสียงเอกฉันท์เมื่อวันพุธ (9) ว่า อูโก ชาเบซ สามารถเลื่อนการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 3 ออกไปไม่มีกำหนด ด้านผู้นำฝ่ายค้านแม้ยอมรับคำวินิจฉัยแต่โดยดี แต่ไม่วายสำทับว่า สถานการณ์ของประเทศชาติยังคงไร้ความแน่นอน
เอนริเก กาปริเลส ตัวแทนของแนวร่วมฝ่ายค้านซึ่งพ่ายแพ้แก่ชาเบซ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ออกมายอมรับคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ของศาลสูงสุด ก่อนพาดพิงว่า นับจากนี้เป็นความรับผิดชอบของรองประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ทายาททางการเมืองที่ชาเบซเลือกเองกับมือ ซึ่งจะต้องทำการบริหารประเทศ
ท่าทีของกาปริเลสบ่งชี้ ถึงจุดจบของการต่อสู้เพื่อตีความรัฐธรรมนูญครั้งสำคัญ สืบเนื่องจากรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยล่าสุดของชาเบซออกไปอย่างไม่มีกำหนด อีกทั้งคณะรัฐบาลชุดปัจจุบันก็จะรักษาการไปจนกว่าชาเบซจะแข็งแรงพอกลับมาทำพิธีได้
ทางด้านมาดูโรได้แสดงความยินดีต่อคำวินิจฉัยของศาลสูงสุดและเชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุมเพื่อแสดงการสนับสนุนชาเบซ
เขายังย้ำว่า ผู้นำชาติต่างๆ อาทิ ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ ของบราซิล ต่างแสดงการสนับสนุนชาเบซอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำรัฐบาลฝ่ายซ้ายในประเทศละตินอเมริกาและย่านแคริบเบียน ซึ่งเป็นลูกค้าซื้อน้ำมันราคาถูกจากเวเนซุเอลา เป็นต้นว่า โบลิเวีย นิการากัว เฮติ ฯลฯ ได้เริ่มเดินทางถึงกรุงคารากัสเพื่อแสดงการสนับสนุนชาเบซ ในวาระที่ควรเป็นวันทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอีก 6 ปีในวันพฤหัสบดี (10) นี้
ขณะเดียวกัน การที่เขาไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนรวมถึงการไม่สามารถเข้าทำพิธีสาบานตนของชาเบซ ก็กำลังทำให้ช่วงเวลานี้กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการหายหน้าหายตาที่ยาวนานที่สุดในรอบ 14 ปีซึ่งเขาครองอำนาจในเวเนซุเอลา
ทางการเวเนซุเอลาแจ้งว่า ชาเบซเวลานี้ยังต้องพักฟื้นจากการผ่าตัดมะเร็งครั้งที่ 4 อยู่ที่กรุงฮาวานา ประเทศคิวบา โดยที่เขามีอาการแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ล่าสุดก็คือการที่ปอดติดเชื้อรุนแรงซึ่งทำให้มีปัญหาในการหายใจ
หลังจากปล่อยให้เกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานา และกระทั่งในคืนวันจันทร์ (7) ที่ผ่านมา เอร์เนสโต บิลเลกัส รัฐมนตรีสารสนเทศ ยังออกมาพูดว่า อาการของชาเบซไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ทว่าในวันต่อมา รัฐบาลจึงได้แถลงยืนยันว่า ชาเบซป่วยเกินกว่าจะเดินทางกลับคารากัส และจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในภายหลัง โดยจะสาบานต่อหน้าศาลสูงสุดแทนที่จะเป็นรัฐสภาตามธรรมเนียมปกติ
จากนั้น รัฐสภาที่ชาเบซกุมอำนาจอยู่ก็ลงมติอนุมัติให้ประธานาธิบดีลาพักไม่มีกำหนด และเมื่อถึงวันพุธ คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุด 7 คนที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐสภา ก็ออกคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ว่า การเลื่อนการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของชาเบซ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เวเนซุเอลานั้น ไม่ขัดรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
ลุยซา มอราเลส ประธานศาลสูงสุดยังออกคำสั่งยกเลิกการเรียกประชุมคณะกรรมการทางการแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพของชาเบซ
นับจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเมื่อกลางปี 2011 ชาเบซปฏิเสธมาตลอดที่จะสละอำนาจ แม้เมื่อไปรับการผ่าตัดครั้งล่าสุดที่คิวบาก็ตาม
ตามรัฐธรรมนูญเวเนซุเอลานั้น รัฐบาลต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 30 วัน หากประธานาธิบดีกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถถาวรหรือเสียชีวิต ไม่ว่าจะก่อนสาบานตนเข้ารับตำแหน่งหรือในช่วง 4 ปีแรกของวาระ 6 ปีแห่งการเข้าบริหารประเทศ
ดังนั้น หากชาเบซอสัญกรรมหรือสละตำแหน่ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้น ก็น่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างมาดูโร กับ กาปริเลส ผู้นำฝ่ายค้านและผู้ว่าการรัฐมิแรนดาวัย 40 ปี โดยที่งานนี้พวกนักวิเคราะห์ฟันธงว่า แม้ผลสำรวจก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่าประชาชนชื่นชอบกาปริเลสมากกว่า แต่มาดูโรกลับมีภาษีดีกว่า เนื่องจากจะได้กำลังใจและการสนับสนุนท่วมท้นในกรณีที่ชาเบซถูกบีบให้สละอำนาจ