เอเอฟพี - พม่าไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องยอมรับความช่วยเหลือจากต่างชาติให้แก่ชาวมุสลิมที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุรุนแรงทางศาสนา หรือไม่เช่นนั้นพม่าจะต้องเผชิญกับปฏิกิริยารุนแรงจากต่างชาติ ประธานาธิบดีเต็งเส่งกล่าววานนี้ (21 ต.ค.)
ความคิดเห็นของผู้นำพม่ามีขึ้นหลังเกิดการประท้วงหลายระลอกโดยกลุ่มพระสงฆ์ในพม่าต่อต้านความพยายามของคณะกรรมการกลุ่มชาติมุสลิมที่จะช่วยเหลือชาวมุสลิมที่ได้รับผลกระทบจากความรุนยแรงในรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของประเทศ
ประชาชนทั้งที่เป็นชาวพุทธ และมุสลิมหลายสิบคนเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น และอีกหลายหมื่นคนต้องอพยพไร้ที่อยู่
“เราต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หากเราปฏิเสธความช่วยเหลือ ประชาคมโลกจะไม่ยอมรับเรา” ประธานาธิบดีเต็งเส่ง กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นบริหารประเทศเมื่อ 18 เดือนก่อน
“เราต้องเลี้ยงดูประชาชนที่ต้องใช้จ่ายราว 10,000 ดอลลาร์ต่อวัน” ประธานาธิบดีเต็งเส่งกล่าวถึงค่าใช้จ่ายในค่ายพักแรมในรัฐยะไข่ และว่า รัฐบาลไม่สามารถรับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด และไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จะเลี้ยงดูประชาชนในค่ายพักแรมด้วยความช่วยเหลือสำหรับประชาชนทั่วไป ดังนั้น จึงจำเป็นต้องยอมรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากประชาคมโลก
ชาวมุสลิมมากกว่า 50,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญา พักอาศัยอยู่ในค่ายพักแรมหลายแห่งในรัฐยะไข่ และไม่สามารถเดินทางกลับบ้านของตัวเองได้
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้ขวางความพยายามของ OIC ที่จะเปิดสำนักงานในพม่าเพื่อช่วยเหลือผู้ไร้ที่อยู่ หลังพระสงฆ์หลายพันรูปจัดการประท้วงขึ้นหลายครั้งใน 2 เมืองหลักของประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ประธานาธิบดีเต็งเส่งระบุว่า รัฐบาลปฏิรูปของเขาจะยังคงยอมรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากประเทศมุสลิมต่อไป.