เอเอฟพี - ชาวกัมพูชาต่างติดริบบิ้นสีดำ และลดธงลงครึ่งเสาในวันนี้ (16 ต.ค.) ท่ามกลางความเศร้าสลดที่ปกคลุมประเทศจากการสวรรคตของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์ของกัมพูชา ขณะที่ทางการกัมพูชาเตรียมการรับเสด็จพระศพสู่ประเทศจากจีนในวันพรุ่งนี้ (17)
สมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์ผู้ทรงนำพากัมพูชาผ่านช่วงเวลาหลายทศวรรษของความวุ่นวายทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ตั้งแต่การได้รับอิสรภาพไปจนถึงสงคราม ความโหดร้ายของเขมรแดง และคืนสู่สันติภาพในท้ายที่สุด ได้เสด็จสวรรคตจากอาการพระหทัยวายในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ (15) ในขณะที่พระองค์มีพระชนมายุ 89 พรรษา
พระศพของพระองค์จะกลับสู่กัมพูชาในวันพุธ (17) โดยจะตั้งพระศพที่พระราชวังในกรุงพนมเปญ เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เจ้าหน้าที่กัมพูชา ระบุ
อดีตกษัตริย์พระองค์นี้ ยังคงเป็นที่เทิดทูนเคารพรักจากพสกนิกร แม้ว่าพระองค์จะสละราชสมบัติในปี 2547 เนื่องจากพระอาการประชวร และชื่อเสียงเกี่ยวกับการเมือง ที่รวมทั้งทรงให้การสนับสนุนเขมรแดงก่อนถูกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงควบคุมตัว
ในเมืองหลวงของกัมพูชา ตั้งแต่คนหนุ่มสาวไปจนถึงผู้สูงอายุ ต่างหลั่งไหลเดินทางมายังสนามหน้าพระราชวังเพื่อถวายความเคารพ และอาลัยต่ออดีตกษัตริย์
แซม สีวอน อายุ 58 ปี กล่าวว่า เขารู้สึกคิดถึงพระองค์ และเดินทางมายังลานหน้าพระราชวังเพื่อถวายอาลัย และกล่าวว่า ภายใต้รัชสมัยของพระองค์ทุกคนล้วนมีความสุข
นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายสิบคนที่ทุกคนล้วนสวมเสื้อสีขาว และกลัดผ้าขนาดเล็กสีดำเป็นสัญลักษณ์ของการไว้อาลัย ได้นำพวงมาลาดอกไม้สีเหลือง-ขาว วางไว้ที่ด้านหน้าพระราชวัง และเนื่องจากไม่มีจุดถวายความเคารพ หรือถวายอาลัยอย่างเป็นทางการ ทำให้พวงมาลาดอกไม้กลายเป็นจุดถวายความเคารพชั่วคราว ประชาชนที่เดินทางมาภายหลังต่างคุกเข่าสวดมนต์ และวางดอกบัวหน้าพวงมาลาช่อดังกล่าว
ชาวกัมพูชาสูงอายุหลายคนหวนรำลึกถึงช่วงทศวรรษ 1950-1960 ที่ถือเป็นยุคทอง เมื่อสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงนำพาประเทศเป็นอิสระจากการปกครองของฝรั่งเศส และเป็นช่วงเวลาที่การเมืองมีเสถียรภาพ
หลังจากพระองค์ถูกนายพลลอน นอล ที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนโค่นอำนาจในปี 2513 พระองค์ทรงให้ความร่วมมือกับเขมรแดง แต่พระองค์กลับถูกใช้เป็นหุ่นเชิดก่อนที่คอมมิวนิสต์หัวรุนแรงยึดอำนาจควบคุมตัวพระองค์อยู่แต่ภายในพระราชวัง และในช่วงการปกครองของเขมรแดงนั้น มีประชาชนมากถึง 2 ล้านคนต้องเสียชีวิตลง ซึ่งรวมทั้งพระโอรสธิดาของพระองค์อีก 5 องค์ด้วย พระองค์ได้ทรงหลบหนีไปยังจีน ที่พระองค์ระบุว่า เป็นบ้านหลังที่ 2 ก่อนเวียดนามเข้ารุกรานกัมพูชาเพื่อขับไล่กลุ่มเขมรแดงออกจากอำนาจ
บรรดาชาติต่างๆ ได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และเกาหลีเหนือ ด้านนายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ระบุในคำแถลงยกย่องสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ว่า ทรงอุทิศพระองค์ให้แก่ประเทศ และเป็นผู้นำที่รวมชาติเป็นหนึ่งเดียว
ในการสละราชสมบัติครั้งสุดท้าย พระองค์ทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น พระมหาวีรกษัตริย์ พระวรราชบิดา เอกราช บูรณภาพดินแดน และความเป็นเอกภาพแห่งชาติเขมร.
ประชาชนร่วมถวายอาลัยAFP PHOTO