ซินหัว - การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนามในช่วง 9 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ย.) ลดลงอย่างมาก ทั้งในจำนวนโครงการ และมูลค่าการลงทุนที่จดทะเบียน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา สำนักงานใหญ่สถิติเวียดนามระบุวานนี้ (10 ต.ค.)
ระหว่างช่วง 9 เดือนแรกของปี เวียดนามดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในโครงการใหม่ๆ ได้รวม 775 โครงการ ด้วยจำนวนเงินลงทุนจดทะเบียน 6,100 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อเทียบปีต่อปีแล้วลดลง 17.4% และ 39% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกับอีก 314 โครงการที่ขยายทุนเพิ่มอีก 3,400 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศรวมเป็น 9,500 ล้านดอลลาร์ แต่การใช้จ่ายเงินทุนมีอยู่เพียง 8,100 ล้านดอลลาร์ ในระหว่างช่วงเวลา 9 เดือน และเมื่อเทียบปีต่อปีลดลง 1.2%
จากมูลค่าการลงทุนรวมดังกล่าว เป็นสัดส่วนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป 6,240 ล้านดอลลาร์ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ 1,800 ล้านดอลลาร์ และในภาคส่วนอื่นๆ 1,470 ล้านดอลลาร์
จ.บิ่งเซวือง ในภาคใต้ของประเทศ เป็นจังหวัดที่มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากที่สุด ด้วยมูลค่ารวม 1,480 ล้านดอลลาร์ ใน 74 โครงการ ตามด้วยเมืองท่าหายฟ่อง ที่ 1,040 ล้านดอลลาร์ จาก 21 โครงการ และ จ.ด่งนาย 610 ล้านดอลลาร์ จาก 37 โครงการ ส่วนเมืองหลวงอย่างกรุงฮานอย และศูนย์กลางเศรษฐกิจในภาคใต้อย่างนครโฮจิมินห์ อยู่ในอันดับที่ 4 และ 5 ที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้ 570 ล้านดอลลาร์ และ 415 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
ญี่ปุ่นรั้งอันดับ 1 ประเทศที่เข้าลงทุนมากที่สุด จาก 18 ประเทศ และดินแดนที่เข้าลงทุนในเวียดนามในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ด้วยจำนวนโครงการทั้งหมด 203 โครงการ รวมมูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยเกาหลีใต้ 159 โครงการ มูลค่า 432 ล้านดอลลาร์ และฮ่องกง 31 โครงการ มูลค่ารวม 431 ล้านดอลลาร์
ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในช่วง 9 เดือนแรก ทำรายได้จากการส่งออกสูงถึง 52,480 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวขึ้น 34.6% ขณะที่มูลค่าการนำเข้า 43,860 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24.8% ทำให้ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้ดุลการค้า 34 ล้านดอลลาร์
กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามเปิดเผยว่า เวียดนามตั้งเป้าที่จะดึงดูดเม็ดเงินจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ 17,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ตั้งไว้ 14,700 ล้านดอลลาร์.