.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ธรรมชาติยังคงเป็นหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแรงบันดาล จนยากที่มนุษย์สามัญจะคาดเดาได้ทั้งหมด พายุลูกใหญ่ในทะเลจีนใต้ที่ส่อเค้าความรุนแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แม้จะยังไม่ลดความดุดัน แต่ก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปอีกขั้น ข้อมูลล่าสุดของสำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำของโลกที่ออกมาในช่วงเช้า และเที่ยงวันวันพฤหัสบดี 4 ต.ค.นี้ชี้ชัดตรงกันว่า พายุโซนร้อนแกมิ (Gaemi) อาจจะเข้าถึงไทยแค่ จ.อุบลราชธานีเท่านั้น
หากเป็นเช่นนั้น ในอีก 4 วันข้างหน้า ที่ราบใหญ่ภาคกลางของไทย รวมทั้งชาวกรุงเทพฯ ก็อาจจะรอดพ้นจากสถานการณ์ฝนตกฟ้าคะนองอันหนักหน่วงที่จะซ้ำเติมภาวะน้ำท่วมใหญ่ ที่ผู้คนจำนวนมากวิตกกังวลอยู่ในขณะนี้
แต่สำหรับเวียดนามภัยร้ายยังไม่สิ้นสุด ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ในกรุงฮานอยกล่าวว่า พายุแกมิอาจจะซ้ำรอยกับไต้ฝุ่นชื่อลาวลูกหนึ่งที่พัดเข้าเขตที่ราบสูงภาคกลางเวียดนาม และภาคใต้ลาว ก่อนทะลุเข้ากัมพูชาในต้นเดือน ต.ค.2552
ครั้งนั้น ไต้ฝุ่นเกดสะหนาสร้างความสูญเสียใหญ่หลวงขณะขึ้นฝั่งเวียดนาม และเคลื่อนที่ช้าๆ ก่อนจะอ่อนตัวเป็นภายุโซนร้อนเมื่ออยู่ในดินแดนลาว และกัมพูชา ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก พัดพาเอาบ้านเรือนราษฎรชาวลาวในแขวงเซกอง และอัตตะปือหายไปทั้งหมู่บ้าน
แผนภูมิพยากรณ์ของ JTWC ที่ออกเวลาเที่ยงวันที่ผ่านมา แสดงให้เห็นพายุแกมิยังคงหมุนเคว้งอยู่ในตำแหน่งเดิมๆ ในทะเลจีนใต้ พายุลูกนี้เคลื่อนตัวช้าลง ซึ่งส่งผลให้ปลายทางของมันหดสั้นเข้าโดยธรรมชาติ สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เชื่อว่าแกมิจะเข้าถึงฝั่งเวียดนามในวันที่ 7 ต.ค. ช้ากว่าที่เคยพยากรณ์ 12 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเป็นเวลา 1 วันเต็ม ในขณะเดียวกัน ปลายทางของมันก็จะหดสั้นลงไปหยุดอยู่ที่ชายแดนลาว-ไทย กับพื้นที่บางส่วนของ จ.อุบลราชธานีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติยังเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ และความไม่แน่นอนก็ยังเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่เสมอ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ เวียดนามได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุลูกนี้ต่อไปตลอด 72 ชั่วโมงข้างหน้า.
.