“ฮุนเซน” ระบุช่องว่างการพัฒนาเป็นอุปสรรครวมประชาคมอาเซียน

เอเอฟพี - ชาติสมาชิกอาเซียนต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อลดช่องว่างที่ขัดขวางความพยายามของภูมิภาคที่จะสร้างตลาดเดียวแบบสหภาพยุโรป นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาระบุวันนี้ (27 ส.ค.)

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ที่ จ.เสียมราฐ ระบุว่า การสร้างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี 2558 เป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก

การเลียนแบบตัวอย่างของสหภาพยุโรปที่อาเซียนต้องการสร้างตลาดเดียว และฐานการผลิตของประชาชนราว 600 ล้านคน เป็นเป้าหมายที่ถูกกระตุ้นจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากจีน และอินเดีย และในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี อาเซียนต้องจัดการกับอุปสรรค และสร้างสะพานเชื่อมช่องว่างการพัฒนาที่เป็นอุปสรรคต่อการก่อให้เกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตามแผนที่กำหนดไว้

นายกฯ ฮุนเซน ระบุว่า ช่องว่างการพัฒนาในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้นกว้างมาก ชาติสมาชิกทั้ง 10 ประเทศของกลุ่มมีตั้งแต่ประเทศที่ยากจน เช่น พม่า ไปจนถึงประเทศที่ก้าวหน้าอย่างสิงคโปร์ และมหาอำนาจเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซีย

“เราจำเป็นต้องพยายามเพิ่มเป็นสองเท่าในการส่งเสริมการเติบโต และปรับปรุงการกระจายการเติบโตทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาคอย่างยุติธรรม” ฮุนเซน กล่าว

ในขั้นตอนเพื่อลดช่องว่างระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและยากจน และบรรลุการรวมตัวกันของภูมิภาค อาเซียนได้ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอาเซียนเมื่อปีก่อนเป็นจำนวนเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้กู้ยืมในโครงการสร้างถนน ทางรถไฟ และโครงการอื่นๆ โดยปราศจากความช่วยเหลือโดยตรงจากต่างชาติ แต่นายกฯ ฮุนเซน ที่ประเทศกำลังดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปัจจุบัน ระบุว่า กองทุนดังกล่าวนั้นยังคงมีขนาดเล็ก

นายกฯ ฮุนเซนได้กล่าวกระตุ้นบรรดารัฐมนตรีคลัง และเศรษฐกิจของกลุ่มให้ดึงดูดคู่ค้าทางการเงินให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มขนาดของกองทุน โดยเฉพาะกับประเทศคู่เจรจาเช่น ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้

เศรษฐกิจของอาเซียนขยายตัวที่ร้อยละ 4.7 ในปี 2554 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะซบเซา ราคาน้ำมันพุ่งสูง และการเคลื่อนย้ายเงินทุนไม่แน่นอน และลดลงจากปี 2553 ที่ขยายตัวร้อยละ 7.6 ตามข้อมูลอาเซียน

แม้ว่าการส่งออกจะชะลอตัว แต่ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ประกอบด้วยบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ได้ดุลการค้ารวมกันมากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2554

ระหว่างการประชุมตลอดสัปดาห์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจจะหาทางทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจในระหว่างการหารือกับชาติอื่นๆ ที่รวมทั้ง จีน สหรัฐฯ รัสเซีย และอินเดีย และการประชุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันครั้งแรกของชาติสมาชิกอาเซียนนับตั้งแต่การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในเดือน ก.ค. สิ้นสุดลงด้วยความขัดแย้งเกี่ยวกับเหตุพิพาททางทะเลในทะเลจีนใต้.