ซินหัว - พื้นที่ป่าของพม่าลดลงเหลือเพียง 1 ใน 5 ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ ขณะที่ทางการเรียกร้องให้หยุดการส่งออกไม้ไปต่างประเทศ สื่อท้องถิ่นของพม่าอ้างรายงานของคณะกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของสภาล่าง ในวันนี้ (22 ส.ค.)
พื้นที่ป่าทั้งหมดของประเทศลดลงเหลือ 24% ในปี 2551 จาก 51% ในปี 2548 และ 57% ในปี 2505 นายเต็ง ละวิน เลขาธิการคณะกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติกล่าวในการสัมนาด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ที่กรุงเนปีดอ
อัตราการลดลงของผืนป่าในแต่ละปี จากที่เคยมีอัตราอยู่ที่ 0.64% ในช่วงระหว่างปี 2518-2532 ได้ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% ระหว่างปี 2532-2541 และด้วยอัตราดังกล่าวส่งผลให้การลดลงของป่าอยู่ในสภาพเลวร้าย นักวิเคราะห์ระบุ
สาเหตุหลักของการสูญเสียป่าเป็นเพราะการตัดไม้มากเกินไป การลักลอบตัดไม้ การปลูกป่าทดแทนน้อยเกินไป การเปลี่ยนระบบการเพาะปลูก และการใช้ฟืนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น การส่งออกไม้ท่อนที่ถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายยังส่งผลให้ไม้ที่ใช้ในการผลิตไม้สำเร็จรูปมีไม่เพียงพอ และจากข้อมูลการสูญเสียพื้นที่ป่าดังกล่าว ทำให้บรรดาผู้ส่งออกไม้สำเร็จรูปที่เข้าร่วมการสัมมนาได้แสดงความพร้อมที่จะหยุดส่งออกไม้
การส่งออกไม้สำเร็จรูปของพม่า มีมูลค่าอยู่ที่ 453 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2551-2552 และ 641.87 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2554-2555
พม่าสามารถผลิตไม้สักได้เกือบ 283,000 ลูกบาศก์เมตร และไม้เนื้อแข็งได้ 1.98 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยผลิตภัณฑ์จากป่ากว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในการครอบครองของภาคเอกชน
พม่าเป็นผู้ส่งออกไม้สักรายใหญ่ มีส่วนแบ่งตลาดถึง 75% ของตลาดโลก และไม้สักส่วนใหญ่ส่งออกไปยังอินเดีย จีน บังกลาเทศ ไทย และมาเลเซีย.
