เอเอฟพี - รัฐสภาพม่าวันนี้ (15 ส.ค.) ได้แต่งตั้งผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นรองประธานาธิบดีของประเทศ แทนนายทหารสายแข็งกร้าว ในความเคลื่อนไหวที่เป็นการเสริมสายนักปฏิรูปของประเทศให้เข้มแข็งขึ้น
พล.ร.อ.เนียน ตุน อายุ 58 ปี ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นนักการเมืองสายกลาง ถูกเลือกโดยนายทหารที่ครองที่นั่ง 1 ใน 4 จากที่นั่งทั้งหมดในสภา และมีสิทธิที่จะเลือกรองประธานาธิบดีหนึ่งคน จากที่มีทั้งหมดสองคน
การแต่งตั้งรองประธานาธิบดีครั้งนี้ ได้รับอนุมัติโดยคณะผู้เลือกตั้ง ซึ่งนายขิ่น อ่อง มี้นต์ ประธานสภาสูง ได้ประกาศในระหว่างการประชุมสมัยประชุมร่วมของสภาสูง และสภาผู้แทนราษฎร ในกรุงเนปีดอ
“พล.ร.อ.เนียน ตุน เป็นคนเงียบ และรู้กันดีว่าเขาเป็นคนยืดหยุ่น เขามีบุตร 3 คน และใช้ชีวิตเรียบง่าย” นายทหารที่เป็นสมาชิกสภานายหนึ่ง กล่าวถึงรองประธานาธิบดีคนใหม่
ด้านนายติน ออง มี้นต์ อู รองประธานาธิบดีคนก่อน ที่เป็นที่ทราบกันว่า อยู่ในสายแข็งกร้าว และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย ได้ลาออกจากตำแหน่งในเดือน ก.ค. ด้วยเหตุผลปัญหาสุขภาพ ยิ่งโหมข่าวลือเกี่ยวกับการต่อสู้ทางอำนาจระหว่างสายกลาง และสายอนุรักษ์
นับตั้งแต่ขึ้นบริหารประเทศเมื่อปีก่อน ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ได้ดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างมากมาย รวมทั้งการปล่อยตัวนักโทษการเมืองหลายร้อยคน และการเลือกตั้งที่ทำให้แกนนำฝ่ายค้านอย่างนางอองซานซูจีเข้าสู่สภา
สำหรับผู้ที่ถูกเสนอชื่อรายแรกของกองทัพ ในตำแหน่งรองประธานาธิบดี คือ นายมี้นต์ ฉ่วย อดีตนายทหารเกษียณราชการ และมุขมนตรีเขตนครย่างกุ้ง แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากลูกเขยของนายมี้นต์ ฉ่วย เป็นพลเมืองออสเตรเลีย ซึ่งตามรัฐธรรมนูญทำให้ต้องตัดสิทธินายมี้นต์ ฉ่วย ออกจากตำแหน่งดังกล่าว
“มุขมนตรีนครย่างกุ้งไม่ผ่านคุณสมบัติการเป็นรองประธานาธิบดี เพราะลูกเขยชาวออสเตรเลียของเขา ผู้แทนทหารได้เปลี่ยนการเสนอชื่อในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ค. เป็น พล.ร.อ.เนียน ตุน” แหล่งข่าวจากรัฐสภาระบุ
บทบัญญัติเดียวกันนี้ ยังเป็นอุปสรรคต่อนางอองซานซูจี แกนนำฝ่ายค้าน ที่จะขึ้นเป็นผู้นำในประเทศ และพรรคของนางได้ให้คำมั่นที่จะรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญที่ถูกเขียนขึ้นโดยอดีตรัฐบาลเผด็จการทหาร
นายมี้นต์ ฉ่วย เป็นหนึ่งในบรรดานายทหารที่มีส่วนร่วมในการปราบปรามการชุมนุมประท้วงนำโดยพระสงฆ์ในปี 2550.