.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สหรัฐฯ กำลังจะส่งยานไร้คนบังคับแบบ RQ-4 “โกลบอลฮอว์ค” (Global Hawk) จำนวน 3 ลำ เข้าประจำการในเกาะกวม เพื่อปฏิบัติการบินสอดแนมความเคลื่อนไหวของจีนในทะเลจีนใต้ รวมทั้งบินสอดแนมในทะเลที่ตั้งเกาะพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่นด้วย หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคในญี่ปุ่นรายงานในวันพฤหัสบดี 9 ส.ค.นี้
ยานไร้คนบังคับหรือ “โดรน” แบบ RQ-4 ผลิตโดยนอร์ธร็อบกรัมแมน (Northrop Grumman) นับเป็นยานทันสมัยที่สุดที่สหรัฐฯ ใช้ประจำการในปัจจุบัน และเป็นความคืบหน้าล่าสุดประการหนึ่งในความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่เตรียมการกลับคืนสู่ย่านเอเชียแปซิฟิกอีกครั้ง
เนื่องจากสมามารถบินในความสูงถึง 18,000 เมตร ยาน RQ-4 มีขีดความสามารถปฏิบัติการระยะไกล และถ่ายภาพความชัดเจนสูง ในเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว RQ-4 ได้ปฏิบัติภารกิจถ่ายภาพความสูญเสียจากวิบัติภัยสึนามิใน และอุบัติภัยที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมาญี่ปุ่น
หนังสือพิมพ์ไทเปไทม์สในไต้หวันรายงานข่าวเดียวกันนี้ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่นใช้เครื่องบินสอดแนมแบบ P-3C “โอไรออน” (Orion) ปฏิบัติภารกิจในย่านนี้
โทรทัศน์เอ็นเอชเค และหนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุน ได้รายงานว่า ความตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น เป็นผลจากการพบเจรจาระหว่างนายซาโตชิ มอริโมโตะ รัฐมนตรีทบวงป้องกันตนเองของญี่ปุ่น กับนายเลออน พลาเน็ตตา รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตั นดี.ซี. ระหว่างไปเยือนสหรัฐฯ วันที่ 5-8 ส.ค.นี้
ประธานาธิบดีเบนีกโน อะคีโน จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า หากมีความจำเป็น ฟิลิปปินส์จะขอให้สหรัฐฯ ช่วยบินลาดตระเวนน่านน้ำของตน เช่นเดียวกันกับที่สหรัฐฯ ช่วยญี่ปุ่น กับเกาหลีในปัจจุบัน
เกาะกวม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่เกาะฟิลิปปินส์ กำลังจะเป็นศูนย์ปฏิบัติการใหญ่ของสหรัฐฯ ในแปซิฟิก ฟิลิปปินส์ เช่นเดียวกันกับเวียดนาม ต่างก็เป็นคู่กรณีโดยตรงกับจีน ที่กล่าวอ้างสิทธิเหนือเกาะในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด รวมทั้งหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลจีนกว่า 1,000 กม.ด้วย
รายงานในเว็บไซต์ข่าวกลาโหมหลายแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้อ้างเอกสารลับที่ระบุว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแผนการเสริมกำลังฝูงบินเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลแบบ B-52 ตลอดจน B-1B เข้าประจำที่เกาะยุทธศาสตร์สำคัญนี้ รวมทั้งเสริมเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้นเวอร์จิเนียอีกอย่างน้อย 4 ลำเข้าสู่ทะเลย่านนี้
สำนักข่าวกลาโหมอีกหลายแห่งยังอ้างรายงานของแหล่งข่าวในสัปดาห์นี้ว่า สหรัฐฯ ได้ตัดแปลงเรือดำน้ำเทคโนโลยีล่องหนชั้นเวอร์จิเนียอย่างน้อย 4 ลำ ลดจำนวนตอร์ปิโดลงให้สามารถติดจรวดร่อนโทมาฮอว์คได้มากขึ้น เนื่องจากได้มอบหมายภารกิจใหม่ให้มุ่งโจมตีเป้าหมายบนบกโดยเฉพาะอีกด้วย
เรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ เป็นชั้นที่ก้าวหน้ามากที่สุด ตรวจจับได้ยาก จึงสามารถเข้าใกล้ชายฝั่งได้ทุกเมื่อ และจรวดร่อนโทมาฮอว์ครุ่นที่ติดตั้งก็มีระยะยิงไกลถึง 1,600 กม. ครอบคลุมทุกเป้าหมายในแผ่นดินใหญ่จีนจากทะเลจีนใต้ สำนักข่าว Lenta.Ru ของรัสเซียรายงาน.