.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ภาพวัตถุขนาดใหญ่ที่ดูประหลาดๆ คล้ายส่วนหัวของเครื่องบิน ซึ่งรถเทรลเลอร์บรรทุกขนาดใหญ่ทำเอียงกระเท่เร่อยู่บนทางหลวง และมีผู้แอบถ่ายเอาไว้นำขึ้นเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตอย่างมีปริศนาเมื่อเดือนที่แล้วนั้น เริ่มความกระจ่างชัดไม่กี่วันมานี้ เว็บไซต์ข่าวการทหารหลายแห่ง ทั้งในจีนเอง ในเวียดนาม อินเดีย ปากีสถาน จนถึงออสเตรเลีย ได้นำเสนอรูปขนาดใหญ่ พร้อมรายงานว่านี่คือ เครื่องต้นแบบของเครื่องบิน J-21 เครื่องบินรบที่ใช้เทคโนโลยี “”สเตลธ์” หลบเลี่ยงเรดาร์ลำใหม่ ถัดจาก J-20 ที่จีนกำลังเร่งทดสอบในขณะนี้
เครื่องบิน J-21 “Falcon Eagle” ท่อนที่เห็นในภาพนี้ วัดความกว้างลำตัวกับปีกได้ 11.5 เมตร แต่ท่อนหลังยังไม่ปรากฏ ภาพที่นำขึ้นโพสต์ในเว็บไซต์ “ซันซีต้าเจี้ยน” (SanxyDajian) ระบุว่า รถเทรลเลอร์ได้เคลื่อนย้ายเครื่อง บินต้นแบบลำนี้จากเมืองเสิ่นหยางไปยังซีอาน ปัจจุบัน ยังอยู่ในระยะการวิจัยทดลองที่สถาบันทดสอบความแข็งแกร่งของอากาศยานในซีอาน และยังไม่มีรายละเอียดมากกว่านี้อีก
การพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นใหม่ของจีน ยังมีขึ้นขณะที่กองทัพเรือจีนกำลังรุกลงใต้อย่างเป็นขบวน เพื่อสนับสนุนนโยบายประกาศขยายน่านน้ำออกครบคลุมเกือบ 80% ของทะเลจีนใต้พร้อมกับการพัฒนาแสนยานุภาพในทุกเหล่าทัพ
นักวิเคราะห์บางสำนักกล่าวว่า ในปัจจุบัน แสนยานุภาพของจีนได้ไปไกลเกินกว่าบรรดาคู่อริทั้งหลายจะรับมือได้ ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย เกาหลี-ญี่ปุ่น หรือกระทั่งกองกำลังของสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้ อันเป็นบทวิเคราะห์ที่มีคำถามติดตามมาอีกมาก
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนที่ชัดเจนของจีนนั้นคือ เครื่องยนต์ไอพ่น จีนใช้เวลานานถึง 20 ปีในการผลิตเอง แต่คุณภาพที่ได้ออกมาก็ยังต่ำกว่าของค่ายตะวันตกทั้งหมด จีนอาจจะผลิตจรวดที่สามารถช่วยส่งยานอวกาศขึ้นสู่วงโคจร และไปจนถึงดวงจันทร์ได้ แต่สำหรับเครื่องบินรบยังต้องพึ่งพาเครื่องยนต์จากรัสเซียตลอดหลายทศวรรษมานี้
ปัญหาสำคัญก็คือ เวอร์ชันที่รัสเซียส่งออก และขายให้จีนนั้น เป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งซึ่งคุณภาพและประสิทธิภาพด้อยกว่าที่รัสเซียใช้ติดตั้งในเครื่องบินของกองทัพอากาศ ในขณะที่เครื่องยนต์ที่รัสเซียผลิต ก็ได้ชื่อว่า เป็นรองเครื่องยนต์ของยุโรปตะวันตก กับสหรัฐฯ อยู่หลายขุม
แต่ในปัจจุบัน เครื่องยนต์เจ็ตรุ่นใหม่ของรัสเซียก้าวไปไกลไม่แพ้ใครในการเป็นขุมพลัง และการที่จีนเจรจาขอซื้อเครื่องบินรบยุคที่ 4++ แบบ Su-35 ล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ ก็อาจจะด้วยเหตุผลนี้ แต่ลงเอยที่รัสเซียไม่ยอมขายให้
ในเดือน พ.ย.2554 หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน ได้ออกยืนยันข่าวการเจรจาซื้อเครื่องยนต์ไอพ่นจากรัสเซียอีก 123 เครื่อง มูลค่าราว 500 ล้านดอลลาร์
นั่นคือ เครื่องยนต์รุ่น AL-31FN ซึ่งเป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งของเครื่องยนต์ที่รัสเซียใช้ติดเครื่องบินตระกูล Su27/30 และจีนนำไปใช้ติดเครื่องบิน J-10 เครื่องบินรบหลักของทัพอากาศในปัจจุบัน ซึ่งมีอายุใช้งานเพียง 1,500 ชั่วโมงเท่านั้น.
.