.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ปลาบึกน้ำหนัก 86 กิโลกรัมที่จับได้เป็นตัวที่ 2 ในเขตที่ราบปากน้ำโขงเวียดนาม ได้ตายลงในวันอาทิตย์ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากบอบช้ำมาก ต่างไปจากตัวแรกน้ำหนัก 72 กก. ที่ถูกจับได้ 2 สัปดาห์ก่อน และตายในอีกไม่กี่วันต่อมา ทั้งสองกรณีติดอวนของชาวประมงในลำน้ำเหิ่ว
ปลาบอบช้ำในน้ำแล้วยังไม่พอ เมื่อจับได้ชาวประมงนำขึ้นบก และขนออกไปจากแม่น้ำโดยไม่ถูกวิธีอีก ทำให้เกิดบาดแผล ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ปลาตาย นายเจิ่นแองซวุง (Tran Anh Dung) ผู้อำนวยการสำนักงานประมงและผลผลิตจากสัตว์น้ำกล่าว
ปลาบึกเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุด และพบในแม่น้ำโขงเท่านั้น ตัวโตเต็มที่อาจมีน้ำหนักถึง 300 กก. แต่การจับมากเกินไป รวมทั้งการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยทำให้กลายเป็นปลาหายาก และใกล้สูญพันธุ์เต็มที ปัจจุบัน ยังคงมีการลักลอบจับกัน ทั้งในลาว ไทย และในกัมพูชา หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานอ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำ
ปลาบึกมีชื่ออยู่ใน “บัญชีแดง” สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ของสหภาพเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature) รวมทั้งในบัญชีแดงของทางการเวียดนามเองด้วย เชื่อกันว่า ปัจจุบันเหลืออยู่จำนวนไม่มากในตอนกลางของแม่น้ำโขง ก่อนหน้านี้ไม่เคยพบปลาบึกในเขตปลายแม่น้ำในดินแดนเวียดนาม
ในเดือน พ.ย.2554 หลังจากอุทกภัยครั้งใหญ่ทั้งในลาว ไทย และกัมพูชา มีผู้พบเห็นปลาบึกฝูงใหญ่ปรากฏอยู่ในลำน้ำเหิ่ว ซึ่งเป็น 1 ในสายน้ำที่แยกออกจากลำน้ำโขง และทำให้เกิดระบบปากแม่น้ำอันสลับซับซ้อนในเวียดนาม เชื่อกันว่าปลาฝูงใหญ่ถูกน้ำซัดลงไปถึงที่นั่น.