.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ศุลกากรนครโฮจิมินห์ เวียดนาม จับยึดงาช้างรวมน้ำหนักได้ 137 กิโลกรัม ในคืนวันพุธ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ไทยจับยึดได้น้ำหนักเกือบครึ่งตัน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ทั้งไทย และเวียดนามเป็นทางผ่านสำคัญของสินค้าผิดกฎหมายนี้
งาช้างล็อตล่าสุดนี้ จับยึดได้ที่ท่าอากาศยานเตินเซินเญิ๊ต ชาวเวียดนาม 2 คนพยายามลักลอบขนเข้าประเทศไปกับเที่ยวบิน TG556 (กรุงเทพฯ-โฮจิมินห์) ของการบินไทย ซึ่งไปถึงนครโฮจิมินห์เวลาประมาณ 20.00 น. ทั้งหมดถูกตัดเป็นท่อนๆ ขนาดสั้นยาวต่างกัน บรรจุในกระเป๋าเดินทาง หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงาน
หากสามารถลักลอบขนเข้าประเทศได้ งาช้างล็อตนี้ก็อาจจะมีมูลค่าถึง 218,000 ดอลลาร์ในตลาด เจ้าหน้าที่กล่าว
ผู้โดยสารทั้งสองแจ้งศุลกากรไม่มีสิ่งของใดๆ ต้องสำแดง แต่เมื่อถูกสอบปาก กลับแสดงพิรุธ และพยายามทิ้งกระเป๋า และหลบหนี หลังถูกจับกุมจึงให้การว่า ขนงาช้างทั้งหมดจากประเทศอังโกลาผ่านเคนยา ก่อนจะเข้าประเทศไทย และจับเที่ยวบินไทยเพื่อนำไปส่ง “ลูกค้า” รายหนึ่งในโฮจิมินห์
ก่อนหน้านั้น ในบ่ายวันที่ 13 ก.ค.เจ้าหน้าที่ไทยจับยึดงาช้างจำนวน 158 กิ่ง น้ำหนักเกือบครึ่งตันภายในคลังเก็บสินค้าสนามบินสุวรรณภูมิ โดยบรรจุในลังไม้ และไม่มีผู้ใดแจ้งแสดงความเป็นเจ้าของ
งาช้างทั้งหมดไปกับเที่ยวบิน KQ886 (ไนโรบี-กรุงเทพฯ) ของเคนยา แอร์เวย์ส ต้นทางประเทศเคนยา ระบุผู้รับคือ JOHNSON CONTROLS AIR EXPRESS สำแดงรายละเอียดเป็นสินค้างานฝีมือหัตถกรรม (HANDCRAFT) เจ้าหน้าที่ไทยกล่าวว่า ทั้งหมดนี้อาจจะมีมูลค่าเกือบ 23 ล้านบาท
.
.
ในเดือน ก.พ.2554 เจ้าหน้าที่ไทยจับยึดงาช้างลอตใหญ่รวม 118 กิ่ง กับ 50 ท่อน รวมน้ำหนักกว่า 1.2 ตัน ได้ภายในคลังเก็บสินค้าของบริษัทการบินไทย ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งหมดมีต้นทางจากแอฟริกา ขนผ่านมาเลเซียมายังไทย โดยแจ้งเป็นสินค้าสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าศุลกากรกล่าวว่า ทั้งหมดอาจจะมีมูลค่าราว 50 ล้านบาท
ไม่เฉพาะแต่ไทย กับเวียดนามเท่านั้น ที่เป็นทางผ่านของขบวนการลักลอบขนงาช้าง และชิ้นส่วนของสัตว์ป่า ต้นเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว มาเลเซียจับยึดงาช้างได้เกือบ 700 กิ่ง ที่ท่าเรือแกลง มูลค่าราว 3 ล้านริงกิต (30 ล้านบาท) ทั้งหมดบรรจุในคอนเทนเนอร์สินค้า ติดป้ายเป็นพลาสติกรีไซเคิล มีต้นทางจากเมืองหลวงของประเทศทันซาเนีย และปลายทางที่จีน
มาเลเซียเคยจับยึดงาช้างได้มากกว่า 1,000 กิ่ง ในการจับกุม 2 ครั้ง ในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านั้น และในเวลาไล่เลี่ยกัน ไกลออกไปที่ฮ่องกง ทางการที่นั่นยึดได้เกือบ 2 ตัน มูลค่าประมาณ 1.7 ล้านดอลลาร์ ขนผ่านมาเลเซียโดยทางเรือเช่นกัน
สำหรับเวียดนาม ในเดือน เม.ย.2552 เจ้าหน้าที่จับงาช้างรวมน้ำหนักถึง 6 ตัน ที่ท่าเรือนนครหายฝ่อง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นล็อตใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับยึดได้ นอกจากนั้น ยังพบนอแรด และชิ้นส่วนของสัตว์ป่าอีกจำนวนมาก ทั้งหมดเตรียมขนย้ายต่อไปเพื่อส่งให้ลูกค้าในประเทศจีน
องค์การทราฟฟิก (TRAFFIC) หน่วยงานเฝ้าจับตาเกี่ยวกับสัตว์ป่ากล่าวว่า การค้างาช้างอย่างผิดกฎหมายทั่วโลกเติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา เนื่องจากความต้องการสินค้าประเภทนี้สูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศจีนที่นิยมใช้เป็นยาแผนโบราณ.