.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นักวิทยาศาสตร์ได้พบปลาประหลาดในแม่น้ำโขงเวียดนาม มีอวัยวะชิ้นหนึ่งโผล่ออกมาใต้ท้องส่วนที่ตรงกับศีรษะเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ต่อมาจึงทราบว่า มันเป็นอวัยวะเพศที่มีมาพร้อมกับปลาเพศผู้ทุกตัว ทำให้เก่งในเรื่องสืบพันธุ์ แต่แทนที่พวกมันจะมีจำนวนชุกชุม กลับตรงข้าม ศัตรูในธรรมชาติมีมาก ประชากรจึงเหลือน้อย และไม่ค่อยเป็นที่สังเกต
นักวิทยาศาสตร์ประกาศการค้นพบปลาชนิดใหม่นี้ในนิตยสาร “นิวไซแอนทิสต์” (New Scientist) ฉบับใหม่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกำลังมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากว่าที่ผ่านมา ยังไม่เคยพบมีปลาชนิดไหนที่มีอวัยวะเพศสืบพันธุ์โผล่ออกนอกกายเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมาก่อน อย่างน้อยที่สุด ก็ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง
นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นคือ โคอิชิ ชิบุคาวา (Koichi Shibukawa) พบปลาพิเศษสุดนี้ในปี 2552 ขณะทำงานให้แก่มูลนิธิ Nagao Natural Environment Foundation ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงเวียดนาม ต่อมา ได้ตั้งชื่อว่า Phallostethus CUULONG
นั่นคือ ตั้งตามชื่อในภาษาเวียดนามคือ “กู๋วลอมง์” หรือ “แม่น้ำโขง” อันเป็นแหล่งที่พบ และ จัดมันเข้าในวงศ์ Priapiumfish ที่ตั้งตามชื่อของเทพเจ้านักรักลูกดกในเทพนิยายกรีก
นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นรายนี้กล่าวว่า พบปลาตัวนี้แบบไม่ได้ตั้งใจ เห็นมันว่ายอยู่ในลำคลองก็ตักช้อนขึ้นมา และสังเกตเห็น มันไม่เหมือนกับปลาทั่วไป
เวลาต่อมา นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นจึงได้ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ (Can Tho University) ในนครเกิ่นเทอ ของเวียดนาม ศึกษาเปรียบเทียบกับปลาชนิดอื่นในวงศ์ Priapiumfish เดียวกัน จึงได้ข้อสรุปว่า ส่วนที่โผล่พ้นออกมาจากหน้าท้องนั้น คือ อวัยวะเพศ เพื่อดึงดูดความสนใจของปลาเพศเมียนั่นเอง
อวัยวะที่โผล่ออกมาช่วยให้มันผสมพันธุ์ได้ง่าย รวดเร็ว และ “แม่นยำ” ในการปล่อยน้ำเชื้อเข้าสู่อวัยวะของเพศเมีย เพื่อสืบเชื้อสายของพวกมันตามธรรมชาติ นักวิเคราะห์ในเว็บไซต์ข่าววิทยาศาสตร์ลงความเห็นเกี่ยวกับการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น
การศึกษาพฤติกรรมกับวงจรชีวิตของปลาชนิดนี้ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อหาแหล่งประชากรของพวกมัน ซึ่งปัจจุบัน พบจำนวนไม่มากเนื่องจากมันอยู่ในกลุ่มล่างๆ ในห่วงโซ่อาหาร ในเขตปากแม่น้ำที่มีนักล่าชุกชุมนั่นเอง
แต่ “เรายังไม่ทราบเหตุผลมากกว่านี้ว่าเพราะเหตุใด ปลาชนิดนี้จึงมีวิวัฒนาการต่างไปจากปลาในวงศ์เดียวกันทั่วไป” ลีนน์ ปาเร็นติ (Lynne Parenti) แห่งสถาบันสมิธโซเนียนกล่าวในเว็บไซต์นิวไซแอนทิสต์.
.
