.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ช่วงปลายปี 2553 ชาว จ.นีงทวน (Ninh Thuan) ในภาคกลางตอนล่างเวียดนามพากันตื่นเต้นกับข่าวลูกวัวตัวหนึ่งที่เกิดมาตัวใหญ่กว่า และโตเร็วกว่าลูกวัวทั่วไป ซึ่งทำให้สงสัยกันว่าอาจเป็นลูกวัวกระทิงในป่า ที่ออกมาผสมพันธุ์กับแม่วัวชาวบ้าน ในวันนี้ "เจ้าตัวเล็ก" (Baby Bull) ตามที่สื่อออนไลน์เรียกขานได้เติบโตเป็นหนุ่มใหญ่และทำให้ทุกฝ่ายยุติความสงสัย
"เจ้าตัวล็ก" เกิดมาทั่วทั้งตัวสีน้ำตาลแดงเช่นเดียวกับแม่และไม่ต่างกับวัวบ้านทั่วไป เมื่อโตขึ้นสีจึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเทาและดำ แบบเดียวกันกับพ่อกระทิงผู้ให้กำเนิด
นีงทวนอยู่ติดกับเขตป่าสงวนใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งยังสมบูรณ์ด้วยชีวะนานาพันธุ์อย่างไม่น่าเชื่อสำหรับประเทศที่ถูกสงครามลำลายล้างอย่างหนักติดต่อกันนานนับครึ่งศตวรรษ เป็นโชคดีของบรรดาสัตว์ป่าหายากที่ไม่ถูกรังควาน
แต่ในวันนี้เจ้าตัวเล็กไม่ได้เป็นลูกครึ่งเพียงตัวเดียวอีกแล้ว ไกลออกไปที่ จ.บี่งเฟื๊อก (Binh Phuoc) ติดชายแดนกัมพูชาที่ในเขตป่าสงวนผืนใหญ่แห่งเดียวกัน ช่วงปีที่ผ่านมามีวัวลูกครึ่งกระทิงเกิดมาอีกหลายตัว ทั้งหมดเติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับเจ้าตัวเล็ก
แน่นอนว่าลูกครึ่งเหล่านี้สังเกตไม่ยาก เพราะแตกต่างกับวัวบ้านทั่วไปอยู่แล้ว
ทั้งหลายทั้งปวงนี้นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ เป็นการผสมพันธุ์ข้ามวัฒนธรรมระหว่างวัวเจ้าป่ากับวัวบ้าน ที่น่าประหลาดใจยิ่ง ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์เริ่มห่วงใยกับสัตว์ป่าพวกนี้มากยิ่งขึ้น เกรงว่าจะเกิดการกลายพันธุ์ไปทีละเล็กละน้อย และจะกลายเป็นวัวอีกพันธุ์หนึ่งในอนาคตข้างหน้า
กระทิงเป็นสัตว์ป่าสงวนที่ขึ้นบัญชีแดงในเวียดนาม ปัจจุบันเชื่อว่าเหลืออยู่ในเขตป่าสงวนบี่งเฟื๊อกประมาณ 100 ตัวเท่านั้น และ ยังมีการไล่ล่าจากพรานป่าอยู่
.
.
.
แต่การห้ามไม่ให้กระทิงผสมพันธุ์กับวัวบ้านเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า ราษฎรในท้องถิ่นเชิงป่าสงวนแห่งชาติใน จ.นีงทวน กล่าวว่า ปีสองปีมานี้ได้เห็นพฤติกรรมอันน่าประหลาดของกระทิงหนุ่มจำนวนหนึ่ง ที่ออกจากป่ามาเพื่อหาเศษหาเลยกับแม่วัวของชาวบ้านโดยเฉพาะ ขณะ ที่วัวออกไปหากินหญ้าและใบไม้ในชายป่า
ในปลายปี 2553 กระทิงหนุ่มเคยไล่ขวิดวัวตัวผู้ของชาวบ้านตายไปแล้วถึง 2 ตัวใน ทำลายกระท่อมกระต๊อบของชาวสวนไปหลายหลัง เนื่องจากหึงหวงตัวเมีย และ ตอนนี้ก็ถึงฤดูที่บรรดากระทิงดุจะลงจากเขาเข้าไปปฏิบัติกิจกรรมในรอบปีอีกแล้ว ราษฎรในท้องถิ่นเริ่มผวากันอีกครั้ง
ไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จะต้องไล่จับผู้ร้ายเท่านั้น ยังมีหน้าที่ต้องไปช่วยชาวบ้านไล่กระทิงออกให้พ้นจากไร่ที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ ผักและผลไม้อีกด้วย
นอกจากจะลงเขามาเพื่อจ้ำจี้กับวัวตัวเมียแล้ว กระทิงพวกนี้ยังระรานพืชผลของราษฎรและไล่ขวิดเจ้าของวัวก็เคยมีมาแล้ว เวียดนามเอ็กซ์เพรสกล่าว.