กัมพูชาเปิดสอนคณะยางพาราในมหาวิทยาลัยกลางปีนี่้

<bR><FONT color=#000033>ด็กน้อยชาวเขมรทำงานและเล่นกันอยู่ในสวนยางของผู้ปลูกยางรายย่อยซึ่งเกษตรกรกลุ่มนี้คิดเป็นประมาณ 45% ของเนื้อที่ปลูกทั้งประเทศ ภาพโดย Ulf Johannsson แห่ง Swedish Museum of Natural History ประเทศสวีเดน <i>ถ่ายวันที่ 28 ส.ค.2553 </i>แต่ไม่ได้ระบุสถานที่ถ่าย ปัจจุบันเนื้อที่ปลูกยางพาราในกัมพูชามีกว่า 1.33 ล้านไร่ เป็นอัตราเพิ่มที่รวดเร็วมาก เนื้อที่สัมปทานอีกหลายแสนไร่ยังไม่ได้ลงต้นกล้า รัฐบาลกำลังเตรียมการเพื่อเปิดสอนคณะวิชายางพาราในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างบุคคลากรป้อนอุตสาหกรรมด้านนี้โดยเฉพาะ.</b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กระทรวงเกษตร ป่าไม้และการประมง กัมพูชาจัดประชุมในสัปดาห์นี้เตรียมการเปิดสอนคณะยางพารา ขึ้นในมหาวิทยาลัยการเกษตร (Royal University of Agriculture) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ในขณะที่เนื้อที่ปลูกยางขยายออกไปทุกปี และ รัฐบาลมีนโยบายแน่ชัดจะเป็นผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่อีกรายหนึ่งของโลก

คณะวิชายางพาราจะสร้างทรัพยากรบุคคลและผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ที่กัมพูชาไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมการเกษตรเกี่ยวกับพืชชนิดนี้ในอนาคต ขณะที่ผลผลิตยางพาราได้รับการปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นทุกๆ ปี จากดินที่สมบูรณ์ตามธรรมชาติและเหมาะสำหรับการปลูกยาง สำนักข่าวกัมพูชากล่าว

การประชุมจัดขึ้นวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการหารืออย่างกว้างขวาง และหากแผนการดำเนินไปเรียบร้อย คณะวิชาดังกล่าวก็จะเปิดการเรียนการสอนได้ราวๆ กลางปี 2555 นี้ สำนักข่าวของรัฐบาลกล่าว

ตามตัวเลขของกระทรวงเกษตรฯ ปัจจุบันทั่วประเทศมีเนื้อที่ปลูกยางถึง 213,000 เฮกตาร์ (1.33 ล้านไร่เศษ) แม้จะยังน้อยกว่าในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง แต่อัตราเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากรัฐบาลเปิดให้เอกชนและต่างชาติเข้าลงทุนในแขนงนี้

ราว 31% ของสวนยางพาราปัจจุบันปลูกโดยระบบสัมปทาน อีก 45% เป็นของครอบครัวเกษตรกร พื้นที่ที่เหลือเป็นของบริษัทเอกชน พื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ใน จ.กระแจ๊ะ (Kratie) กัมปงจาม กัมปงธม และ รัตนคีรี สำนักข่าวแห่งเดียวกันกล่าว

ปี 2554 กัมพูชาส่งออกยางพาราได้ทั้งหมด 46,700 ตัน มูลค่า 201 ล้านดอลลาร์ จาก 30,000 ตัน กับ 86.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2553 เป็นอัตราเพิ่มกว่า 55.6% ในเชิงปริมาณ และ 56.8% ในเชิงมูลค่า และ นำหน้าการส่งออกข้าว.