ลุย "ฮาเร็มโฮจิมินห์" นักศึกษาตรึม เสี่ยเกาหลีญี่ปุ่นตามสอย

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ถนนหลายสายในนครโฮจิมินห์มีร้านอาหารหรูที่ภายในเต็มไปด้วยหญิงสาวรอให้บริการแก่ลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะ รวมทั้งสาวนักศึกษาที่หลงใหลในค่าทิปจากแขกคืนละ 300,000-400,000 ด่ง (14-19 ดอลลาร์) หรือ มากกว่านั้นหากพวกเธอสมัครใจ ตามแขกไปยัง อพาร์ตเมนต์ หรือ บ้านพักส่วนตัวและค้างคืนกับพวกเขา

เรื่องราวที่สะท้อนความล้มเหลวทางสังคมนี้ เปิดโปงโดยหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ ที่ลงทุนลงแรงส่งเหยี่ยวข่าวสาวแฝงกายเข้าไปเป็นสาวนั่งดริ๊งค์ และ แอบถ่ายภาพจากข้างในออกเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้

"สาวสวยที่ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 19-20 ปี ทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับในร้านอาหาร พวกเธอทำหน้าที่ดูแลชาวต่างชาติภายในห้องคาราโอเกะมิดชิด หลายคนสมัครใจตามพวกเขาไปยังที่พักหลังเวลา 23.30 น." เหยี่ยวขาวสาวเปิดโปงเรื่องราวอันน่าตื่นตาตื่นใจในวันจันทร์ 30 ม.ค.ศกนี้

หญิงสาวจำนวนมากเป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่หลงใหลค่าทิปนับแสนๆ ที่แขกต่างชาติให้ เพียงแค่ไปนั่งเป็นเพื่อน 1-2 ชั่วโมง แต่จะได้ 100-400 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้นหากพวกเธอตามไปค้างคืนกับพวกเขาถึงบ้านหรือห้องพักใน อพาร์ตเมนต์ของพวกเขา หลังร้านปิดลงก่อนเวลาเที่ยงคืนตามกฎหมายกำหนด

ในนครโฮจิมินห์มี "ฮาเร็ม" ประเภทนี้อยู่ไม่ต่ำกว่า 50 แห่ง ส่วนใหญ่กระจุกกันอยู่ในเขตอำเภอที่ 1 ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเงิน กับอำเภอที่ 3 ที่มีพื้นที่อยู่ติดกันเป็นย่านใจกลางของนครใหญ่แห่งภาคใต้ ซึ่งก็คือ กรุงไซ่ง่อน “ไข่มุกแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ในอดีต

พฤติกรรมของหญิงสาวเหล่านี้ไม่ต่างไปจากหญิงโสเภณีทั่วไป ต่างกันก็แค่ "ค่าตัว" เท่านั้น เตื่อยแจ๋กล่าว

2

เวลาประมาณ 2 ทุ่มของทุกวันหรือราว 3 ชั่วโมง หลังจากสำนักงานบริษัทเอกชนและธุรกิจต่างๆ ปิดลง ร้านอาหารหลายแห่งที่ถนนฟัมหงูหลาว (Phạm Ngũ Lão) ที่ชาวต่างชาติคับคั่ง จะเริ่มคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

ภัตตาคารเหล่านี้เปิดรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ทั้งชาวญี่ปุ่น เกาหลี ชาวจีน สิงคโปร์ ทุกคนทราบดีในนั้นมีอะไร และเรียกสาวๆ เหล่านั้นสั้นๆ ง่ายๆ ว่า "เลดี้" ซึ่งเป็นสาวระดับสูงและค่าตัวแพง

ร้านอาหารและร้านคาราโอเกะพวกนี้ล้วนมีเจ้าของเป็นชาวเวียดนาม และส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและ "รู้ใจ" นักธุรกิจด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวต่างชาติในยามที่อยู่ต่างบ้านต่างเมือง

เหยี่ยวข่าวสาวของเตื่อยแจ๋ใช้เวลา 3 เดือน แฝงตัวอยู่ในร้านอาหารหรูหลายแห่ง ได้พบหญิงสาวมากหน้าหลายตาและจากหลายแหล่งที่มา แต่คุณสมบัติสำคัญของทุกคนคือ ต้องมีรูปหน้าสวยและหุ่นดี และก็โชคดีที่ร้านอาหารเหล่านี้ไม่บังคับให้หญิงสาวต้องยอมให้ "อ๊อฟ" แต่ร้านมีรายได้จากแขกที่ไปใช้บริการและเงินที่หักเป็น "ค่าธุรกิจ" จากสาวๆ

เหยี่ยวข่าวสาวกล่าวว่า ร้านอาหารหรูแห่งแรกที่เธอไปฝังตัวอยู่นั้น มี "เลดี้" ราว 30 คน นั่งอัดกันอยู่ในห้องขนาด 20 ตารางเมตร รอ "คิว" เรียกออกไปให้บริการเป็นเพื่อนแขกในห้องคาราโอเกะที่ซอยออกเป็นสัดเป็นส่วน

หญิงสาวทุกคนจะแต่งตัวด้วยผ้าชิ้นน้อย อวดเนื้อหนังมังสามากกว่าจะอวดชุดสวย ทุกคนจะเมคอัพ เขียนคิ้ว ดัดขนตาให้งอนงาม ปัดแก้มให้ใส หากหน้าอกหน้าใจใหญ่โตหรือสะโพกใหญ่หน่อย ก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการดูดเงินดอลลาร์ หนังสือพิมพ์ของสันนิบาตยุวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์กล่าว

3

4
ทุกครั้งที่มีเสียงดังผ่านวิทยุสื่อสารวอล์คกี้ทอล์คกี้เข้ามา สาวๆ จะทยอยกันออกไปทีละกลุ่ม ตามจำนวนแขกที่เข้าร้าน

"คนไหนที่ให้แขกอ๊อฟได้ให้นั่งแถวขวามือ คนไหนนั่งดริ๊งค์ให้นั่งทางซ้าย" นางหว่างซึ่งเป็นผู้จัดการร้านอาหารและทำหน้าที่มาม่าซังบอกประโยคนี้กับหญิงสาวทุกวัน

มาม่าซังจะทำหน้าที่เป็นล่ามในตัว จะคอยแจ้งให้สาวๆ ทราบเป็นระยะๆ ว่า แขกคนไหนชาติไหนที่กำลังต้องการพวกเธอไปค้างด้วย และ คนไหนที่สมัครใจ ก็จะตามนางหว่างไป

เหยี่ยวขาวสาวรายงานอีกว่า "ฮาเร็ม" ใหญ่ที่สุดที่เธอเห็น เป็นร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง ที่ถนนฟัมหง็อกแถ็ก (Phạm Ngọc Thạch) ในท้องที่อำเภอ 3 ซึ่งมีห้องคาราโอเกะ 10 ห้อง มีสาวสวยประจำคืนละ 70 คน หญิงสาวเหล่านี้พูดภาษาจีนกลางได้ ภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษได้ เกือบทั้งหมดพร้อมที่จะไปกับแขกหลังร้านเลิก

แขกต่างชาติมักจะไปกันเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน แต่ละคืนจะใช้เงินเป็นค่าอาหาร ค่าร้องเพลงกับค่าสาวๆ 3,000-4,000 ดอลลาร์ เตื่อยแจ๋กล่าว

หญิงสาวคนหนึ่งยอมรับว่างานที่เธอทำอยู่นั้นไม่ต่างกับสาวเชียร์เบียร์ทั่วไป และไม่ต่างกับโสเภณี แต่รายได้ดีกว่ากันมาก ทั้งยังได้โอภาปราศรัยกับชาวต่างชาติ ไม่ถูกตำรวจรบกวนเพราะไม่ต้องไปค้างตามโรงแรม นอกจากนั้นแขกชาวต่างชาติไม่มอมเบียร์มอมเหล้าพวกเธออย่างที่ชายชาวเวียดนามทั่วไปชอบทำกันและลวนลามพวกเธอหลังจากนั้น

คดีฉาวโรงนวดฮาเร็ม by Người Đưa Tin

ปีที่แล้วตำรวจนครโฮจิมินห์บุกทลายฮาเร็มอาบอบนวดเตินหว่างฟ๊าต (Tân Hoàng Phát) ที่มีหลายสาขา และซุกสาวๆ เอาไว้นับร้อยคนขายบริการทางเพศแอบแฝง มีการใช้อาวุธปืนบังคับข่มขืนใจให้หญิงสาวทุกคนต้องพลีกายให้ความสุขแก่แขกผู้ไปใช้บริการแลกกับเงินที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดหลังถูกหักค่าใช้จ่ายต่างๆ หญิงสาวเหล่านี้ส่วนใหญ่ไปจากชนบทที่ยากจนในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง กรณีนี้กลายเป็นคดีตัวอย่าง เจ้าของกิจการกับภรรยาและบรรดา "ผู้คุม" ถูกนำตัวขึ้นศาล ทั้งหมดถูกตัดสินจำคุกยาว.

5

6

7

8

ร้านอาหารใหญ่ชื่อภาษาญี่ปุ่นอีกแห่งหนึ่งใช้สาวนักศึกษาล้วนๆ บางคนกำลังเรียนคณะการท่องเที่ยวในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง พวกเธอคิดค่าบริการ 100-150 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงที่บ้านหรือห้องพักของแขก

เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ถนนโงวันนาม (Ngô Văn Nam) กล่าวว่าธุรกิจของเขาทำกำไรมหาศาล แขกแต่ละคณะใช้เงิน 200-1,000 ดอลลาร์และในแต่ละคืนสาวๆ จะรับแขก 3-4 คณะ ก่อนจะตามแขกออกไปหรือไม่ก็กลับบ้าน และร้านไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้กับหญิงสาวเหล่านั้น “วิน-วิน” กันทุกฝ่าย

เวียดนามกำลังเร่งปราบปรามการค้าประเวณีอย่างหนักเพื่อให้หมดภายใน 10 ปีหลังจากเมื่อปีที่แล้วรัฐบาลขีดเส้นตายให้กระทรวงป้องกันความสงบภายในต้องจัดการ ตามนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เห็นว่าการค้าประเวณีเป็นหนึ่งในสาม "ความชั่วร้ายทางสังคม" เช่นเดียวกัน การทุจริตคอร์รัปชั่นและการค้ายาเสพติด

ปีที่แล้วตำรวจได้เข้าทลายสถานอาบอบนวดใหญ่แห่งหนึ่งที่มี 3 สาขา และ ซุกซ่อนหญิงสาวเอาไว้นับร้อยคน บังคับข่มขืนใจให้ค้าประเวณีแอบแฝง ตำรวจช่วยให้หญิงสาวกลับบ้านทั้งหมด เจ้าของสถานบริการและผู้เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด และศาลตัดสินให้จำคุกตั้งแต่ 4-12 ปี ตามน้ำหนักของการกระทำความผิด

หลายเดือนมานี้ตำรวจฝ่ายปราบปรามความชั่วร้ายทางสังคม ได้ร่วมกับตำรวจท้องที่บุกเข้าจับกุมการค้าประเวณีตามโรงแรมและร้านอาหารคาราโอเกะ ทลายแก๊งค้าก้ามได้หลายแก๊ง แต่ยิ่งปราบก็ยิ่งผุดขึ้นมาให้เห็นมากขึ้น.