เอเอฟพี - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ตีพิมพ์บทวิเคราะห์เกี่ยวกับพม่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2542 ชื่นชมการปฏิรูปที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการผลักดันขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
บทวิเคราะห์บางส่วนระบุว่า เศรษฐกิจพม่าที่ต้องตกอยู่ภายใต้กิจกรรมที่ทำให้เกิดความชะงักงันของเศรษฐกิจเป็นเวลานานในระหว่างที่รัฐบาลทหารพม่าบริหารประเทศ จะเติบโตประมาณร้อยละ 5.5 ในปีงบประมาณนี้ ที่สิ้นสุดในเดือน มี.ค.และเติบโตขึ้นร้อยละ 6 ในปีงบประมาณถัดไป
แต่การปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ซับซ้อนเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่พม่าจะต้องดำเนินการแก้ไข และจำเป็นจะต้องมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง และจัดการปฏิรูปอย่างกว้างขวางเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในระดับมหภาค
“รัฐบาลชุดใหม่กำลังพบกับโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ที่จะก้าวกระโดดในกระบวนการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่” นางเมอร์ราล คาราซูลู ผู้นำคณะประเมินเศรษฐกิจในพม่าของ IMF กล่าวในแถลง และว่า พม่ามีศักยภาพการเติบโตสูงและจะกลายเป็นขอบแดนเศรษฐกิจลำดับต่อไปของเอเชีย หากพม่าสามารถเปลี่ยนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย แรงงานหนุ่มสาว และใกล้ชิดกับบางส่วนของเศรษฐกิจที่มีพลังขับเคลื่อนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
IMF ยังเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าเพิ่มการปฏิรูปเพื่อส่งเสริมบรรยากาศในการลงทุนและทำธุรกิจ ปรับปรุงภาคการเงินให้มีความทันสมัย และเปิดเสรีการค้าและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
บทวิเคราะห์เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนและการจัดการสกุลเงินเมื่อเปิดประเทศ และว่า การแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินสกุลจ๊าตจะเกิดเป็นสิ่งแรกจากเงินต่างชาติจำนวนมากที่เข้ามาในระบบเศรษฐกิจของประเทศ และไม่สามารถหาทางระบายออกได้เนื่องจากข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนชำระเงินและการโอนเงินระหว่างประเทศ