ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ประธานสภาผู้แทนราษฎรพม่า ตูราฉ่วยหมาน (Thura Shwe Mann) กล่าวว่า คงจะไม่มีการรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายทหารอีกแล้ว เนื่องจากทุกฝ่ายในพม่ากำลังร่วมกันพัฒนาประเทศให้เป็นประชาธิปไตยและมีเอกภาพ เพื่อความเจริญผาสุกของประชาชน โดยกองทัพเองก็มีความปรารถนาเช่นเดียวกัน หลังจากได้ควบคุมการบริหารประเทศมานาน
ตูราฉ่วยมานน์ อดีตนายพลเอก “ผู้นำหมายเลข 3” ในคณะปกครองทหาร ที่ผันตัวเองจากกองทัพลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2553 ระบุดังกล่าวในการตอบคำถาม นายดิดิเยร์ ลอรา (Didier Laura) แห่งสำนักข่าวเอเอฟพี หลังการพบสนทนากับนายอาแลง จุ๊ปเป (Alain Juppe) รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสในเมืองหลวงเนปีดอ ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องนี้เผยแพร่ในนิตยสารข่าวเมียนมาร์ไทม์ส ฉบับที่กำลังวางแผงสัปดาห์นี้
นายลอรากล่าวว่าหลายฝ่ายได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองอีก ซึ่งรวมทั้งนางอองซานซูจีด้วย และยังถามประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยว่า จะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรสำหรับการปฏิรูปและนำเสถียรภาพกลับคืนสู่ประเทศ
“การสร้างชาติให้เป็นประเทศประชาธิปไตยนั้นเป็นเรื่องทำได้ยากมาก” นายฉ่วยมาน กล่าว
“แต่คุณคงจะได้เห็นแล้วว่า ความพยายามของทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายรัฐบาลได้ทำให้เราไปถึงก้าวสำคัญก้าวหนึ่งแล้วในการเปลี่ยนถ่ายสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่คงจะพูดอย่างเจาะจงไม่ได้ว่า เมื่อไรเราจะเป็นประเทศประชาธิปไตย” ประธานสภาผู้แทนฯ กล่าว
.
.
“เราอยากจะพัฒนาให้เหมือนกับประเทศชั้นนำทั้งหลายและปรารถนาที่จะมีสัมพันธ์อันดีกับประเทศต่างๆ เหล่านั้น มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพวกเราทำให้เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น เราคงพูดไม่ได้ว่าเมื่อไรเราจะเป็นประเทศประชาธิปไตย แต่ผมอยากจะพูดว่าเรากำลังเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก และอยู่บนหนทางแห่งประชาธิปไตย” นายฉ่วยมา กล่าว
ผู้นำสำคัญคนนี้ยังกล่าวอีกว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายทหาร ต่างก็มีทัศนะอันเดียวกัน “ผู้นำทางทหารของเราก็ต้องการเห็นการพัฒนาของประเทศแบะประชาชน และด้วยเหตุผลดังกล่าวก่อนหน้านี้ฝ่ายทหารจึงต้องทำรัฐประหาร เพื่อเข้าไปมีอำนาจในกระขบวนการปกครองประเทศและรัฐบาล”
“แต่เวลานี้อดีตผู้นำทางทหาร (เช่นพวกเรา) ได้ตัดสินใจที่จะสร้างประเทศที่มีสันติสุขและพัฒนาโดยเปลี่ยนจากระบอบที่ปกครองโดยทหารมาเป็นประชาธิปไตย จะไม่มีทางอื่นที่จะไปยังเป้าหมายนั้นได้หากไม่ใช่ประชาธิปไตย” เมียนมาร์ไทม์สรายงานอ้างคำกล่าวของ อดีตผู้บัญชาการกองทัพ และ ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคนหนึ่งในคณะปกครองทหารเมื่อก่อน
“ถ้าหากจำเป็นก็ได้โปรดนำคำพูดของผมไปถึงนางอองซานซูจีด้วย และผมขอเชิญชวนนางซูจีให้ถามผมโดยตรงก็ได้หากตัวท่านต้องการและผมจะตอบทุกคำถาม หรือไม่เราก็อาจจะพบกันในปีตูลู๊ตดอ (สภาผู้แทนราษฎร) ถ้าหากท่านชนะในการเลือกตั้ง” นายฉ่วยมานกล่าว.