เอเอฟพี - สื่อท้องถิ่นของพม่า รายงานวันนี้ (11 ธ.ค.) ว่า พม่าผ่อนคลายข้อจำกัดให้กับสื่อสิ่งพิมพ์ทางธุรกิจและอาชญากรรมอีกหลายสิบฉบับ แต่ยังคงเข้มงวดกับการควบคุมการพาดหัวข่าว
หนังสือพิมพ์เมียนมาร์ไทม์ส รายงานว่า วารสาร นิตยสาร และหนังสือ รวมทั้งหมด 54 ฉบับ ไม่ต้องเข้ารับการตรวจสอบเนื้อหาก่อนตีพิมพ์อีกต่อไป หลังการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับข้อจำกัดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.
สำหรับสื่อที่เกี่ยวกับข่าวสารยังคงต้องได้รับการตรวจสอบก่อนตีพิมพ์ ซึ่งเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์โดยกลุ่มเรียกร้องเสรีภาพสื่อ ว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่เข้มงวดที่สุดในโลก แม้ว่าทางการจะระบุว่าการผ่อนคลายข้อจำกัดจะมีขึ้นอีกไม่นาน
รัฐบาลชุดใหม่ของพม่า ที่ขึ้นมามีอำนาจหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.2553 ได้ดำเนินการปฏิรูปประเทศหลายประการ เพื่อยุติการถูกโดดเดี่ยวประเทศ และมีโอกาสได้ต้อนรับการเดินทางเยือนครั้งสำคัญของนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
มาตรการควบคุมยังรวมถึงการเจรจากับนางอองซาน ซูจี แต่รูปภาพของนางได้รับอนุญาตให้ตีพิมพ์ลงในสื่อได้แล้วในเวลานี้
ผู้ตีพิมพ์ได้รับการบอกกล่าวในเดือน มิ.ย.ว่า วารสารกีฬา นิตยสารบันเทิง นวนิยาย และการประกาศผลรางวัลลอตเตอรี่ ไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบก่อนตีพิมพ์จากกระทรวงสารนิเทศ
หนังสือพิมพ์เมียนมาร์ไทม์ส รายงานว่า นายติน ฉ่วย ผู้อำนวยการกรมพิจารณาและลงทะเบียนสื่อกล่าวว่า หัวข้อเกี่ยวกับข่าว การศึกษา และศาสนา จะเปลี่ยนให้ดำเนินการตรวจสอบด้วยตนเอง ก่อนกฎหมายสื่อฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ แต่ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายฉบับใหม่หรือระยะเวลาแต่อย่างใด
ทางด้านบรรณาธิการบริหารจากหนังสือพิมพ์ เซเว่นเดย์ นิวส์ กล่าวกับเมียนมาร์ไทม์ส ว่า เขารู้สึกผิดหวังที่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดำเนินต่อ แต่ยินดีที่มีการผ่อนคลายข้อจำกัดบางประการกับสิ่งพิมพ์ทางธุรกิจ และว่าขณะที่ประเทศกำลังดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจ การมีเสรีภาพในการเขียนและวิจารณ์ได้อย่างอิสระนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ
รายงานในหนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ฉบับวันอาทิตย์ ระบุว่า นายจอว์ ซาน รัฐมนตรีกระทรวงสารนิเทศและวัฒนธรรม เสนอว่า การตรวจสอบภาพยนตร์และวีดีโอ ควรผ่อนคลายลง แต่ไม่ได้ระบุว่าการผ่อนคลายนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อใด
เมื่อเดือน ก.ย.ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวพม่าสามารถเข้าเว็บไซต์สื่อที่ถูกแบนได้เป็นครั้งแรก เช่น เว็บไซต์บีบีซี และเว็บไซต์ดีวีบี (เสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า) แต่ความเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ประกาศขึ้นอย่างเป็นทางการนี้ มีขึ้นในสัปดาห์เดียวกันกับที่ศาลได้ตัดสินเพิ่มระยะเวลาจำคุกนักข่าวที่ทำงานให้กับดีวีบีเป็น 18 ปี