ซินหัว - กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม รายงานวานนี้ (18 ต.ค.) ว่า ภัยน้ำท่วมที่สร้างความเสียหายทั้งในภาคกลางและภาคใต้ของเวียดนามได้คร่าชีวิตชาวเวียดนามไปแล้วอย่างน้อย 55 คน นับตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นมา
รายงานระบุว่า น้ำท่วมในบริเวณที่ราบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงทางภาคใต้คร่าชีวิตชาวเวียดนามไป 48 คน และสร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามากกว่า 1.2 ล้านล้านด่ง (57 ล้านดอลลาร์)
เหตุน้ำท่วมเกิดขึ้นจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงมากเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนมากกว่า 80,700 หลังจมอยู่ใต้น้ำ คันกั้นน้ำความยาวกว่า 1,455 กม.และถนนราว 1,300 กม.พังเสียหาย ทั้งยังทำลายพื้นที่นาข้าวช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวอีกกว่า 46,875ไร่ และพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอีก 16,250 ไร่
สำนักข่าวเวียดนามนิวส์ รายงานว่า ใน จ.เฮิ่วซยาง (Hau Giang) พื้นที่ไร่อ้อยกว่า 55,000 ไร่ ที่ปลูกไว้ และตามปกติจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายเดือน พ.ย.นั้น เกษตรกรต้องรีบเก็บผลผลิตบนพื้นที่กว่า 37,500 ไร่ ที่จมอยู่ใต้น้ำแล้วเป็นเวลานานมากกว่าสัปดาห์
ศูนย์พยากรณ์อุตุ-อุทกวิทยาแห่งชาติเวียดนาม (HFC) ระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงตอนบน จะเริ่มลดระดับลงในอีก 5 วันข้างหน้า แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงที่เป็นระดับเตือนภัยน้ำท่วมจนถึงต้นเดือน พ.ย.
ส่วนเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนที่ตกอย่างหนักในภาคกลางของประเทศช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเสียชีวิตแล้ว 7 คน ได้รับบาดเจ็บ 14 คน และสูญหายอีก 4 คน เหตุน้ำท่วมยังทำให้บ้านเรือนประชาชนมากกว่า 92,000 หลัง นาข้าว 13,750 ไร่ และพื้นที่เกษตรอีก 21,875 ไร่ในหลายจังหวัดภาคกลางต้องจมอยู่ใต้น้ำ ประชาชนมากกว่า 6,500 ครอบครัว ต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
HFC ระบุว่า ฝนที่ตกลงอย่างหนักในหลายจังหวัดภาคกลางมีปริมาณอยู่ในที่ 100-200 มม. และอาจสูงสุดถึง 400 มม.ในพื้นที่บางส่วนของ จ.กว๋างจิ และว่า บนทางหลวงหลายเลข 1A ที่วิ่งผ่านหลายอำเภอของ จ.กว๋างนิงห์ น้ำท่วมทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก รถบรรทุกและรถยนต์หลายร้อยคันหยุดชะงักไม่สามารถเดินทางต่อได้